เลขที่ |
49 |
หมวดหมู่ |
เสาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน@ |
ประเภท |
พิธีสาร |
ชื่อภาษาไทย |
พิธีสารว่าด้วยกลไกระงับข้อพิพาทของอาเซียน |
ชื่อภาษาอังกฤษ |
ASEAN Protocol on Enhanced Dispute Settlement Mechanism (EDSM) |
สถานที่ลงนาม |
กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว |
วันที่ลงนาม / วันที่ได้รับการลงมติยอมรับ |
29 พฤศจิกายน 2547 |
สถานะการให้สัตยาบัน |
|
การเริ่มมีผลบังคับใช้ |
มาตรา 21
พิธีสารนี้จะมีผลบังคับใช้นับแต่วันที่ได้มีการลงนาม |
สถานะการมีผลบังคับใช้ |
มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 |
สาระสำคัญ |
พิธีสารว่าด้วยกลไกระงับข้อพิพาทของอาเซียน (EDSM) จัดทำขึ้นเพื่อทดแทนพิธีสารว่าด้วยการระงับข้อพิพาท ฉบับปี พ.ศ. 2539 เป็นกลไกระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนที่เกี่ยวข้องกับการตีความหรือการใช้ความตกลงทางเศรษฐกิจ (ตามมาตรา 24 วรรค 3 ของกฎบัตรอาเซียน ซึ่งระบุว่าในกรณีที่มิได้มีการกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นเป็นการเฉพาะ ให้การระงับข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับการตีความหรือการใช้ความตกลงทางเศรษฐกิจของอาเซียนเป็นไปตามพิธีสารว่าด้วยกลไกระงับข้อพิพาทของอาเซียน) โดยกำหนดให้ดำเนินการระงับข้อพิพาทตามกลไกที่กำหนดไว้ในพิธีสารฯ และมีผลบังคับใช้กับความตกลงทางเศรษฐกิจทั้งก่อนและหลังปี พ.ศ. 2547 (Appendix I) อย่างไรก็ตาม การระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นก่อนพิธีสารฯนี้เริ่มมีผลบังคับใช้ยังคงอยู่ภายใต้กลไกที่กำหนดไว้ใน Protocol on Dispute Settlement Mechanism ฉบับปี พ.ศ. 2539 (ตามมาตรา 21(2))
สาระสำคัญของพิธีสาร EDSM ฉบับปัจจุบันนี้ คือ การจัดตั้งคณะพิจารณา (Panels) และองค์กรอุทธรณ์ (Appellate Body) เพื่อให้สอดคล้องกับกระบวนการระงับข้อพิพาทขององค์การการค้าโลก (WTO) โดยมีแนวทางให้รัฐสมาชิกหาทางระงับข้อพิพาทระหว่างกัน โดยวิธีปรึกษาหารือ หรือการใช้คนกลางที่ น่าเชื่อถือ การประนีประนอม หรือการไกล่เกลี่ย ก่อนที่จะเลือกใช้วิธีการระงับข้อพิพาทอย่างเป็นทางการของคณะพิจารณาและ องค์กรอุทธรณ์ ซึ่งหากข้อพิพาทนั้นดำเนินมาสู่กระบวนภายใต้ขอบเขตอำนาจของคณะพิจารณาหรือองค์กรอุทธรณ์แล้ว เมื่อมีคำตัดสินหรือข้อเสนอแนะเป็นประการใด รัฐสมาชิกจะต้องปฏิบัติตามคำตัดสินหรือข้อเสนอแนะนั้น หากไม่ปฏิบัติตาม รัฐที่เป็นฝ่ายเสียหายอาจเรียกร้องให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย หรือตอบโต้โดยขอระงับการให้สิทธิพิเศษทางการค้ากับรัฐคู่กรณีของตน หรืออาจกำหนดให้มีบุคคลที่สาม (Third Party) ซึ่งได้แก่ประเทศที่ไม่ใช่คู่กรณีแต่มีผลประโยชน์ร่วมกันเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวก็ได้ |
กฏหมายที่เกี่ยวข้อง |
|