นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล ประธานคณะอนุ กมธ. พิจารณาศึกษาโครงสร้างราคาพลังงานที่มีผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ในคณะกมธ.พาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา และนายทศพร ทองศิริ โฆษกคณะ กมธ. พาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา และรองประธานคณะอนุ กมธ. คนที่หนึ่งพร้อมคณะ แถลงข่าวเรื่องราคาพลังงาน
วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม 2565 เวลา 15.20 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล ประธานคณะอนุ กมธ. พิจารณาศึกษาโครงสร้างราคาพลังงานที่มีผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ในคณะกมธ.พาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา และนายทศพร ทองศิริ โฆษกคณะ กมธ. พาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา และรองประธานคณะอนุ กมธ. คนที่หนึ่งพร้อมคณะ แถลงข่าวเรื่องราคาพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมัน แก๊สหุงต้ม และค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ส่งผลให้สินค้ามีราคาแพง เนื่องจากทั้ง 3 อย่างนั้นคือราคาตั้งต้นของสินค้า และส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อของประเทศ
วันนี้ (4 ส.ค. 65) คณะอนุ กมธ. ได้เชิญกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ซึ่งกำกับดูแลเรื่องการขุดเจาะน้ำมันดิบภายในประเทศ ได้ทราบข้อมูลว่าปัจจุบันขุดเจาะน้ำมันในประเทศได้ 88,000 บาร์เรลต่อวัน กรมเชื้อเพลิงฯ แจ้งว่าว่าจะมีการเปิดปากบ่อน้ำมันเพิ่มอีก 20 บ่อ ซึ่งจะทำให้การผลิตน้ำมันภายในประเทศผลิตได้เพิ่มขึ้นไปถึงจุดที่เคยผลิตได้สูงสุดคือ 150,000 บาร์เรลต่อวัน หากมีน้ำมันที่ขุดจากภายในประเทศเพิ่มขึ้นจะทำให้มีต้นทุนราคาน้ำมันดิบลดลงร้อยละ 8 - 10 จะทำให้ราคาน้ำมันลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าถูกลง ทั้งนี้ข้อมูลต่าง ๆ ที่คณะอนุ กมธ. ได้รับมา ทำให้มีความหวังว่าจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาราคาสินค้าให้กับพี่น้องประชาชนได้ และหากผู้ประกอบการน้ำมันอย่างการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) สามารถเกลี่ยเราคาน้ำมันดิบภายในประเทศได้จะทำให้ราคาน้ำมันในประเทศลดลง จะทำให้สินค้ามีราคาถูกลง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้
ด้านนายทศพร ทองศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า กมธ. และอนุ กมธ. ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อราคาสินค้าที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นวงกว้างและมุ่งมั่นที่จะหาคำตอบเพื่อหาทางช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพื่อลดราคาพลังงานให้ได้อย่างแท้จริง และในสัปดาห์หน้าคณะอนุ กมธ. จะลงสำรวจแท่นขุดเจาะน้ำมัน เพื่อจะได้รับทราบข้อมูลในการผลิตน้ำมัน เพื่อนำข้อมูลมาวางแผนแก้ไขปัญหาราคาพลังงานให้กับพี่น้องประชาชน