น.ส.รักชนก ศรีนอก โฆษกคณะ กมธ.ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ และนายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.จังหวัดภูเก็ต พรรคก้าวไกล แถลงข่าวเกี่ยวกับการติดตามการบริหารงบประมาณของกองทัพเรือ
วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม 2566 เวลา 16.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา น.ส.รักชนก ศรีนอก โฆษกคณะ กมธ.ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ และนายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.จังหวัดภูเก็ต พรรคก้าวไกล แถลงข่าวเกี่ยวกับการติดตามการบริหารงบประมาณของกองทัพเรือในการจัดตั้งหน่วยกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 กองพันสารวัตรทหารเรือที่ 4 และศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งประจำพื้นที่ 3 ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบางขนุน จ.ภูเก็ต ว่า คณะ กมธ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.จังหวัดภูเก็ต พรรคก้าวไกล ผู้ร้องเรียนว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ว่า กองทัพเรือภาคที่ 3 ได้รับพื้นที่มาจากกรมป่าไม้ จำนวนกว่า 3,763 ไร่ เพื่อนำไปสร้างศูนย์ต่อสู้อากาศยานและกองพันสารวัตรทหาร ทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เกิดความไม่สบายใจ จึงมีการเรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณในการดำเนินการและรูปแบบว่าเมื่อสร้างเสร็จจะออกมาแบบใด มีความคุ้มค่ากับงบประมาณที่ต้องใช้หรือไม่ ซึ่งประธานคณะกมธ. ได้บรรจุวาระการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนดังกล่าวเข้าสู่การประชุมของคณะ กมธ. ในวันนี้ จากข้อเท็จจริงทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่มาแต่เดิมได้รับผลกระทบไม่มีที่อยู่อาศัยและที่ทำกินได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก คณะ กมธ. จึงมีข้อสังเกตต่อการพิจารณาเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ดังนี้
1. การอนุมัติการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าสงวนแห่งชาติให้แก่กองทัพเรือนี้ ส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ป่าเป็นจำนวนมากและเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กองทัพเรือกับกรมป่าไม้ ควรมีมาตรการหรือแนวทางแก้ไข เยียวยา ปัญหาร่วมกันกับประชาชนในพื้นที่ป่า เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ป่าได้มีส่วนร่วมในการพิทักษ์และรักษาพื้นที่ป่า
2. คณะรัฐมนตรีควรพิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดให้กองทัพเรือจัดสรรงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าทดแทน เพราะกองทัพเรือมีภารกิจด้านความมั่นคงและการรักษาอำนาจอธิปไตยของประเทศ ไม่ได้มีภารกิจด้านการปลูกป่าทดแทน ภารกิจดังกล่าว ควรที่จะเป็นภารกิจของกรมป่าไม้ที่ต้องจัดสรรงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าทดแทนในกรณีดังกล่าว
3. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควรแก้ไขระเบียบเกี่ยวกับการขอใช้ประโยชน์ที่ดินป่าสงวนแห่งชาติของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ควรได้รับความเห็นชอบจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่ป่า เพื่อลดผลกระทบความเดือดร้อนและทำให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นหาทางออกร่วมกัน