นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ พร้อมด้วย นายปิยะรัฐ จงเทพ โฆษกคณะ กมธ. และคณะ แถลงผลการประชุมคณะ กมธ.
วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม 2566 เวลา 16.30 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ พร้อมด้วย นายปิยะรัฐ จงเทพ โฆษกคณะ กมธ. และคณะ แถลงผลการประชุมคณะ กมธ. ว่า คณะ กมธ.ได้มีการพิจารณาในประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. การพิจารณาการเพิ่มประสิทธิภาพการกระทำกิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริงหรือศึกษาเรื่องใด ๆ ของคณะ กมธ. ตามหน้าที่และอำนาจ ตามมาตรา 129 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลผลการพิจารณา คณะ กมธ. ได้ทราบถึงข้อจำกัดอันเนื่องมาจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญอันส่งผลให้มาตรา 5 มาตรา 8 และมาตรา 13 ของ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะ กมธ.ของสภาผู้แทนราษฎรขัดต่อรัฐธรรมนูญและสิ้นสภาพไป ทั้งนี้ แม้จะมีข้อจำกัดดังกล่าว แต่ทางคณะ กมธ.จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่โดยอาศัยความตามมาตรา 129 แห่งรัฐธรรมนูญต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน หากยังพบปัญหาด้านความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ อันส่งผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ของคณะ กมธ. ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการดำเนินการส่งเรื่องให้กับหน่วยงานหรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้พิจารณาว่าหลีกเลี่ยงการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ หรือเข้าข่ายความผิดตามหลักจริยธรรมหรือไม่ เพื่อให้เป็นมาตรฐานที่ดีต่อไป
2. พิจารณาปัญหาการลักลอบนำยางพาราเข้ามาในประเทศบริเวณจุดผ่านแดนชั่วคราวด่านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ผลการพิจารณาได้รับทราบว่า ด่านพระเจดีย์สามองค์ เป็นด่านผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปี 2541 โดยปัจจุบันพบปัญหาการนำเข้าและการผ่านแดนของยางพารา ซึ่งมีข้อสังเกตว่าด้วยอำนาจตาม พ.ร.บ.กักกันพืช อันควรจะมีเพียงแผ่นยางรมควันที่ได้มาตรฐานที่จะสามารถผ่านแดนหรือนำเข้าได้ แต่ กมธ.เข้าตรวจสอบพบว่ามีการลักลอบนำผลผลิตยางพาราในลักษณะอื่นทั้งยางถ้วย น้ำยาง ยางก้อน ลักลอบผ่านแดนเข้ามา ซึ่งด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายทำให้การตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปได้ยาก