นายชวน หลีกภัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอดีตประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากตำแหน่งหน้าที่
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 17.00 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 205 ชั้น 2 โซนกลาง อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอดีตประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง H.E. Mr. Phan Chi Thanh (นายฟาน จี๊ ทัญ) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ โดยมี นางสาวผ่องศรี ธาราภูมิ ผู้ชำนาญการประจำตัวนายชวน หลีกภัย นายณัฐกานต์ ชูชนะ ผู้ช่วยปฏิบัติงานนายชวน หลีกภัย นางสาวสุภางค์จิตต ไตรเพทพิสัย ผู้ติดตามนายชวน หลีกภัย นายสราวุธ ช้างแก้ว ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และนางณัฏฐ์สุมน สมสมาน ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานภาษาญี่ปุ่นและเกาหลี สำนักภาษาต่างประเทศ ร่วมให้การรับรอง
นายชวน หลีกภัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวต้อนรับด้วยความยินดี และกล่าวชื่นชมเวียดนามที่มีความเจริญเติบโตในทุกด้าน สำหรับการเดินทางไปเยือนเวียดนามนั้น เดิมมีความตั้งใจจะเดินทางไปเยือนเวียดนาม แต่ในระหว่างที่ตนดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา ได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 พร้อมกล่าวถึงต้นซากือที่นำมาจากเวียดนามมาปลูกที่ประเทศไทยจะเป็นสิ่งที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-เวียดนามตลอดไป และได้ฝากความปรารถนาดีไปยังนายเหงียน ซวนฟุก อดีตประธานาธิบดีเวียดนาม นางเหงียน ถิ กิม เงิน อดีตประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม นายหวอ วัน เถือง ประธานาธิบดีเวียดนาม และนายเวือง ดิ่งห์ เหวะ ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามด้วย
เอกอัครราชทูตฯ กล่าวถึงการดำเนินงานภารกิจเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยได้สำเร็จเรียบร้อยด้วยดี ล่าสุด ได้ปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกให้การรับรองนายเวือง ดิ่งห์ เหวะ ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของรัฐสภาไทย ระหว่างวันที่ 7 - 10 ธันวาคม 2566 สำหรับการเดินทางเยือนดังกล่าวมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างสองสภา ทั้งนี้ นายชวน หลีกภัย ได้มีบทบาทในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-เวียดนามเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือประธานรัฐสภา พร้อมกล่าวเชิญนายชวน หลีกภัย เดินทางไปเยือนเวียดนาม เมื่อโอกาสเอื้ออำนวย
เครดิต : ข่าวโดยกลุ่มงานข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร