ประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 152 จาก ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และคณะ
วันพุธที่ 13 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 152 จากนายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และคณะ โดยเหตุผลการยื่นญัตติในครั้งนี้คือ ด้วยคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้บริหารราชการแผ่นดินมาเป็นเวลากว่าหกเดือนแล้ว แต่มิได้ดำเนินการหรือปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับประชาชน ไม่จริงใจ ไม่ตั้งใจ เพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ได้ให้ไว้ต่อรัฐสภา ขาดประสิทธิภาพ และยังไม่ใด้ขับเคลื่อนนโยบายหรือแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม นโยบายเร่งด่วนสวนทางกับการดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาหนี้สินในภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาขน การลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพลังงานของประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ ล้วนขาดยุทธศาสตร์และการปฏิบัติที่ตรงเป้าหมาย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรียังมีพฤติกรรมที่ทำลายความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศรัฐบาลปล่อยปละละเลยให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเอารัดเอาเปรียบประชาชน ระบบราชการมีการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบเกิดการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย แทนที่จะเร่งพื้นฟูหลักนิติรัฐนิติธรรมกลับเกิดการเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม ทำลายหลักความเสมอภาคเท่าเทียมทางกฎหมายและการเมือง ไม่จริงใจต่อการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น การลดความเหลื่อมล้ำ การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน การปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ปัญหาการศึกษา และปัญหาสิ่งแวดล้อม การดำเนินการแก้ปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด และความเดือดร้อนของประชาชน มีความผิดพลาด ไร้ความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน การดำเนินนโยบายด้านการต่างประเทศยังไม่สามารถฟื้นฟูบทบาทสำคัญของประเทศไทยในเวทีโลกได้ หากปล่อยปละละเลยให้รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ ไร้เป้าหมาย ไร้จริยธรรม และไร้วุฒิภาวะต่อไปจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูสภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมตามที่ประชาชนคาดหวังจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาจากสถานการณ์ดังกล่าวจึงมีความจำเป็นที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะได้นำเสนอสภาพปัญหา ข้อเสนอแนะ และซักถามข้อเท็จจริงต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าว
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังรับยื่นญัตติว่า ขอรับญัตติดังกล่าวเพื่อให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นจะมีการประชุมระหว่างผู้แทนฝ่ายค้านและผู้แทนฝ่ายรัฐบาลเพื่อกำหนดวันและเวลาที่จะอภิปราย ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 2 - 3 วัน โดยมีสาระสำคัญที่จะอธิบายเพื่อประโยชน์ประชาชนและทุกฝ่าย โดยคาดว่าจะดำเนินการประชุมให้เสร็จภายในต้นเดือนเมษายนก่อนปิดสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร