คณะ กมธ.การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พร้อมผลักดันงบประมาณสำหรับบริหารจัดการน้ำ หลังนำคณะลงพื้นที่รับทราบปัญหาและร่วมหาแนวทางจัดการน้ำบนเกาะพีพี และ จ.กระบี่
วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567 ณ จ.กระบี่ นายจักรัตน์ พั้วช่วย ประธานคณะ กมธ.การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พร้อมคณะ กมธ. ลงพื้นที่ จ.กระบี่ ติดตามการแก้ไขวิกฤตน้ำแล้ง ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กระบี่ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อ่าวนาง นายอำเภอเมืองกระบี่ การประปาส่วนภูมิภาคสาขากระบี่ สำนักงานเขตชลประทานที่ 15 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) กระบี่ เนื่องจากคณะ กมธ. พบประเด็นข่าวภัยแล้งรุนแรง โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมือง ประสบปัญหาการจ่ายน้ำแบบวันเว้นวัน ปัญหาน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาบนเกาะพีพีไม่เพียงพอ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนน้อย ไม่มีฝนตกตั้งแต่เดือน ม.ค. และปัญหาน้ำบาดาลคุณภาพต่ำเป็นน้ำกร่อย ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุที่กระทบต่อการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการรายย่อย และประชาชน คณะ กมธ. จึงต้องการติดตามการแก้ไขปัญหาและร่วมขับเคลื่อนแผนการบริหารจัดการทั้งระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาวอย่างจริงจัง
โดยนายจักรัตน์ พั้วช่วย เปิดเผยหลังจากลงพื้นที่รับทราบปัญหาและได้ร่วมหารือกับหน่วยงานว่า มีข้อสรุปร่วมกันในการจัดการกับวิกฤติดังกล่าว เป็นแผนการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งของ จ.กระบี่ แบ่งเป็นระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว โดยเฉพาะการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำประปา ด้วยการก่อสร้างระบบผลิต สถานีผลิตและจ่ายน้ำหนองทะเล ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ วงเงินงบประมาณ 174 ล้านบาท การวางท่อน้ำดิบความยาว 22 กม. จากอ่างเก็บน้ำคลองแห้งมายังสถานีผลิตน้ำตลาดเก่า งบประมาณ 400 ล้านบาท และแผนระยะยาว ในการขยายกำลังการผลิตจาก 1,500 คิว เป็น 2,250 คิว และแผนก่อสร้างถังน้ำใสขนาด 6,000 ลูกบาศก์เมตร ที่สถานีจ่ายน้ำนครธรรม ซึ่งนายจักรัตน์ พั้วช่วย และคณะ ยังร่วมกับผู้บริหารท้องถิ่น แถลงข่าวดีว่ามีการค้นพบแหล่งน้ำดิบใหม่ของจังหวัดที่สระคลองหวายเล็ก ซึ่งเป็นขุมเหมืองเดิม พื้นที่ประมาณ 264 ไร่ อาจมีความลึกถึง 1,500 เมตร คุณภาพน้ำดิบระดับผิวน้ำถึงระดับความลึก 15 เมตร สามารถนำมาใช้เป็นน้ำประปาได้ โดยได้รับการยืนยันว่าผ่านการทดสอบเมื่อวานนี้ (9 พ.ค. 67) ถือเป็นข่าวดีล่าสุดของพื้นที่กระบี่ในการเพิ่มปริมาณน้ำดิบทั้งเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ส่วนเรื่องน้ำบนเกาะพีพีได้รับการยืนยันจากรองนายก อบต.อ่าวนาง และการประปาส่วนภูมิภาคว่า ไม่มีผลกระทบมากตามที่เป็นข่าว ยังสามารถรองรับภาคการท่องเที่ยวได้เต็มที่ เพราะเกาะพีพีมีแหล่งน้ำดิบมาจากน้ำบาดาลร้อยละ 60 และอีกร้อยละ 40 จัดซื้อจากเอกชนที่เป็นอ่างเก็บน้ำ ขณะนี้ให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนการจ่ายน้ำโดยสูบจากบาดาลแทนการจ่ายน้ำจากอ่างเก็บน้ำที่แห้งเพราะฝนไม่ตก และยังมีการขนน้ำจากแพภูเก็ตมาเพิ่ม อีกทั้งยังได้เตรียมแผนระยะยาวในการทำน้ำอาร์โอซึ่งเป็นระบบกรองน้ำเค็มเป็นน้ำจืด อยู่ระหว่างขอรับการจัดสรรงบกลางปี 68 เพื่อนำไปใช้ศึกษาการวางระบบทั้งในด้านข้อกฎหมาย ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ระยะเวลาและความคุ้มค่าของโครงการ นอกจากนี้ ได้รับการยืนยันจาก นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ว่าไม่มีปัญหาเรื่องน้ำสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากโรงแรมส่วนมากมีบ่อบาดาลของตนเอง ขอให้ผู้ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.กระบี่และเกาะพีพีไม่ต้องกังวล นายจักรัตน์ พั้วช่วย กล่าวว่า ส่วนตนในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติจะช่วยพิจารณาผลักดันงบประมาณโครงการดังกล่าวที่พื้นที่นำเสนอ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขและการบริหารจัดการน้ำต่อไป
เครดิต : ภาพและข่าวโดยคณะ กมธ.การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สภาผู้แทนราษฎร