รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ให้การรับรอง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เพื่อแนะนำตัวในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่
วันพุธที่ 5 มิถุนายน 2567 เวลา 10.30 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 205 ชั้น 2 โซนกลาง อาคารรัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ให้การรับรองนายปาร์ค ยงมิน ( H.E. Mr. Park Yongmin) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เพื่อแนะนำตัวในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยมีนายพงษ์สรณัฐ ทองลีเลขานุการรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง น.ส.ชนนิกานต์ วชิโรปถัมป์ นักวิชาการในคณะทำงานทางการเมืองของรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง และนายอาพล นันทขว้าง ผู้อำนวยการสำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมให้การรับรอง
รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง กล่าวต้อนรับด้วยความความยินดีและชื่นชมที่เอกอัครราชทูตฯ ดำรงตำแหน่งสำคัญในหลายประเทศ อีกทั้งยังชื่นชมสาธารณรัฐเกาหลีที่เป็นตัวอย่างของระบอบประชาธิปไตยที่ดี มีการตรวจสอบที่โปร่งใส และมีรัฐสภาที่เข้มแข็ง ปัจจุบันประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง โดยประสงค์จะให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวแทนของประชาชนที่แท้จริง สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ หากการจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างกันบรรลุผลสำเร็จ ย่อมจะทำให้เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศขยายตัวขึ้นอย่างแน่นอน พร้อมทั้งเชิญนักลงทุนจากสาธารณรัฐเกาหลีมาลงทุนอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ด้านเทคโนโลยีในประเทศไทยให้มากขึ้น อีกทั้งสาธารณรัฐเกาหลีเป็นประเทศที่บทบาทสูงในคาบสมุทรเกาหลีและยังเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญกับอาเซียน ในส่วนเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ทั้งสองประเทศต่างมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ซึ่งจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันและแลกเปลี่ยนความร่วมมืออย่างจริงจังต่อไป
เอกอัครราชทูตฯ กล่าวขอบคุณที่สละเวลาให้เข้าพบปะหารือในวันนี้ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างไทย - สาธารณรัฐเกาหลี ดำเนินด้วยดีมาอย่างยาวนานกว่า 66 ปี ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ส่งทหารไปร่วมรบในสงครามเกาหลีร่วมกับกองกำลังของสหประชาชาติ สร้างความประทับใจแก่ชาวเกาหลีทุกคนและขอบคุณประเทศไทยอย่างไม่มีวันลืม ในด้านการพัฒนาประเทศ สาธารณรัฐเกาหลีสามารถพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 40 ปี ด้วยการพัฒนาทางเทคโนโลยีและการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ในด้านความสัมพันธ์ทางการค้าการลงทุน ทั้งสองประเทศมีมูลค่าการค้าระหว่างกันประมาณ 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ปี 2566) และสามารถขยายตัวได้หากมีการจัดทำ FTA ระหว่างกัน สำหรับความร่วมมือด้านซอฟต์พาวเวอร์ ทั้งสองฝ่ายควรจะมีความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้น ทั้งนี้ สาธารณรัฐเกาหลีจะต้องเรียนรู้ด้านซอฟต์พาวเวอร์จากไทยอีกมากในฐานะที่เป็นประเทศที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึงปีละ 40 ล้านคน (ปี 2562) นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ยังได้หารือในเรื่องแรงงานไทยที่ไปทำงานในสาธารณรัฐเกาหลีอย่างผิดกฎหมาย และยินดีที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง จะแจ้งเรื่องนี้ไปยังคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎรที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ยังได้เรียนเชิญรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 74 ปี สงครามเกาหลี ที่จะจัดขึ้นที่โรงแรมคาร์ลตัน ถ.สุขุมวิท ในวันที่ 25 มิ.ย. 67
เครดิตข่าว : กลุ่มงานข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร