พิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum of Understanding : MOU) เรื่อง การสนับสนุนบริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) ระหว่างสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 207 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum of Understanding : MOU) เรื่อง การสนับสนุนบริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) ระหว่างสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมี ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และศ.พิเศษวิสิษฎ์ วิสิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมลงนาม โอกาสนี้ ผู้บริหาร และบุคลากรของสำนักงานฯ ร่วมพิธี
การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตั้งระบบงานและแพลตฟอร์ม สำหรับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตามนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการใช้คลาวด์ โครงสร้างการบริหาร แนวทางการบริหารจัดการด้านการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารจัดการข้อมูล กระบวนการในการเลือกใช้คลาวด์ การโอนย้ายระบบงานของภาครัฐ ตามนโยบายของคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เหมาะสมเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรยุคดิจิทัลในปัจจุบัน จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อสนับสนุนการทำงานของรัฐสภาดิจิทัล การพิจารณาร่างกฎหมาย และการพิจารณางบประมาณแผ่นดินที่ส่วนราชการได้รับ เปรียบเทียบกับข้อมูล ผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบที่เกิดจากงบลงทุนของทุกส่วนราชการ โดยนำข้อมูลด้านยุทธศาสตร์งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรของทุกหน่วยราชการ แผนงานโครงการ ปัญหาอุปสรรค ข้อมูลที่คณะกรรมาธิการต้องการในกระบวนการติดตาม ประเมินผลการปฏิบัติราชการของหน่วยงาน และข้อมูลที่สนับสนุนกระบวนการนิติบัญญัติตามภารกิจของคณะกรรมาธิการ ตลอดจนการดำเนินงานทั้งหมดมาพัฒนาจัดสร้างเป็นคลังข้อมูลกลางของฝ่ายนิติบัญญัติที่สามารถสนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลและวิจัยสำหรับองค์กรดิจิทัล (Big Data) พร้อมเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามแนวทางการขับเคลื่อนรัฐบาลแบบเปิดและเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (Open and Connected Government) เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติมีฐานข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายและการใช้จ่ายงบประมาณที่สามารถนำข้อมูลมาประมวลผล เปรียบเทียบ เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมาธิการรวมทั้งประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลของทุกส่วนราชการรวมถึงสะท้อนปัญหาและแสดงข้อคิดเห็นต่าง ๆ เกิดการบูรณาการในการติดตามข้อมูลด้านกฎหมายและการพิจารณางบประมาณแผ่นดินมีคลังข้อมูลวิชาการและกฎหมายคลังข้อมูลงบประมาณที่สามารถใช้งานได้ร่วมกัน พัฒนาบริการของภาครัฐที่มีประซาชนเป็นศูนย์กลาง บูรณาการข้อมูลร้องเรียนของประชาชน เพื่อตรวจสอบวางแผนการช่วยเหลือ ติดตาม และมอบหมายให้ตรงกับพื้นที่ของความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ ตลอดจนสามารถเสริมสร้างบทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติในการติดตามการบริหารราชการแผ่นดินให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไปได้อย่างแท้จริง