รองประธานคณะอนุ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน คณะที่หนึ่ง ในคณะ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุนสภาผู้แทนราษฎร และคณะ แถลงข่าว
วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2567 เวลา 15.10 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว
ชั้น 1 อาคารรัฐสภา น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ รองประธานคณะอนุ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน คณะที่หนึ่ง ในคณะ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร และคณะ แถลงข่าว กรณีการแก้ไขปัญหาการขาดทุนการฟื้นฟูขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) ว่า การหยุดให้การบริการ การเดินรถโดยสารประจำทางตามแผนปฏิรูปรถโดยสารประจำทางของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ทาง คณะ กมธ.ได้รับเรื่องร้องเรียนต่อการปฏิรูปรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพฯ และเส้นทางต่อเนื่องในเขตปริมณฑล โดยยกเลิกการเดินรถ ขสมก. ไปแล้ว จำนวน 49 สาย ส่งต่อให้บริษัทเอกชนเดินรถแทน จำนวน 107 สาย ซึ่งจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคมนี้ เป็นต้นไป ตามมติคณะกรรมการกรมขนส่งทางบก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ที่ใช้บริการรถเมล์กว่า 600,000 คนต่อวัน สร้างความเดือดร้อนต่อการใช้ชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชนอย่างมาก เนื่องจากการปฏิรูปรถโดยสารครั้งนี้ มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางมีการย่นระยะทางให้สั้นลง กว่าจะถึงจุดหมายนั้นประชาชนต้องต่อรถหลายคัน ทำให้ประชาชนต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น และไม่สามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี กรมขนส่งทางบก สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ เข้าร่วมรับฟังปัญหาที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนทั้งนี้ขอยืนยันว่าการเดินรถโดยสารสาธารณะเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่รัฐจำเป็นจะต้องจัดสรรให้ประชาชนเข้าถึงและเกิดประโยชน์สูงสุดนอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงกรณีของชาวบ้านที่อยู่อาศัยในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมหลายอำเภอในจ.นครราชสีมา และอ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมกรณีถูกแจ้งข้อหาบุกรุกที่ดิน ซึ่งได้อยู่อาศัยมานานกว่า 50 ปี โดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แจ้งว่ามีการครอบครองพื้นที่เกินจริงทำให้ชาวบ้านหลายรายในพื้นที่ทับลานต้องได้รับผลกระทบในการที่ได้รับโทษเพิ่มขึ้น อาทิ ค่าปรับตลอดจนโทษทางคดีอาญา โดยในการประชุมที่ผ่านมาคณะอนุ กมธ.เชิญผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป