รองประธานคณะ กมธ. การเกษตรและสหกรณ์ คนที่หนึ่ง นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ กมธ. พร้อมด้วย นายคำพอง เทพาคำ และนายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ โฆษกคณะ กมธ. แถลงข่าว
วันอังคารที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา
ณ จุดแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา เกียกกาย
นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม รองประธานคณะ กมธ. การเกษตรและสหกรณ์ คนที่หนึ่ง
นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ กมธ. พร้อมด้วย นายคำพอง เทพาคำ และนายเอกชัย
ทรงอำนาจเจริญ โฆษกคณะ กมธ. แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะ กมธ. ซึ่งได้มี
การพิจารณาแนวทางการพัฒนาเกษตรอินทรีย์อย่างยั่งยืน
โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและ
อาหารแห่งชาติ (มกอช.) กรมปศุสัตว์ และกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เข้าร่วมประชุม โดยในส่วนของ มกอช. นั้น พบว่าปัญหาที่สำคัญคือการกำหนด
มาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้เป็นที่ยอมรับของสากล และผู้บริโภคยังขาด
ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ซึ่งคณะ กมธ.
เห็นควรให้ทบทวนมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์โดยปรับให้สอดคล้อง
กับอาเซียนและประเทศคู่ค้า รวมทั้งจัดสัมมนาระดมความเห็นต่อ
ร่างแนวทางการรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม เพื่อสร้าง
ความตระหนักรู้ให้แก่เกษตรกร บุคลากร และผู้บริโภค ในการผลิต
การแปรรูป และการบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับรองมาตรฐาน
ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ในส่วนของกรมปศุสัตว์นั้น พบว่า
มีปัญหาเรื่องวัตถุดิบ พืช และอาหารสัตว์อินทรีย์ ที่ไม่เพียงพอ
กับความต้องการ ทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าปศุสัตว์อินทรีย์สูง
และเกษตรกรใช้อาหารสำเร็จรูปทำให้ความเป็นอินทรีย์หมดสภาพไป
ทั้งคณะ กมธ. เห็นควรให้ส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรดำเนินกิจกรรมอินทรีย์
แต่ละรายชนิดสัตว์ และรวมกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบ พืช และอาหารสัตว์อินทรีย์
พร้อมทั้งเชื่อมโยงทั้งสองกลุ่มเข้าด้วยกันเพื่อลดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ
อาหารสัตว์อินทรีย์ สำหรับกรมประมงนั้น พบข้อจำกัดของเกษตรอินทรีย์
ด้านการประมงในเรื่องพื้นที่การเลี้ยงที่ต้องอยู่ในเขตที่ไม่มีการปนเปื้อนยา
และสารเคมี ทำให้เกษตรกรไม่สามารถเข้าสู่มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ได้
นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคด้านลูกพันธุ์สัตว์น้ำ อาหารที่ใช้เลี้ยง