นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ประธานคณะ กมธ.กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ โฆษกคณะ กมธ. และนายวีรวุธ รักเที่ยง กมธ. แถลงข่าวผลการประชุมคณะ กมธ.
วันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม 2566 เวลา 11.40 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ประธานคณะ กมธ.กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ โฆษกคณะ กมธ. และนายวีรวุธ รักเที่ยง กมธ. แถลงข่าวผลการประชุมคณะ กมธ. เมื่อวานนี้ (13 ธ.ค. 66) ได้มีการพิจารณากรณีการดำเนินการเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ จ.นราธิวาส โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ ด้วยประธานมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม สำนักงานประจำจังหวัดยะลาได้ยื่นเรื่องร้องเรียน และติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีสลายการชุมนุมในเหตุการณ์ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 47 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยในปัจจุบันคดีดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้าและกำลังจะขาดอายุความ
ในการนี้ มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักงานอัยการภาค 9 ตำรวจภูธรภาค 9 สถานีตำรวจภูธรตากใบ และสถานีตำรวจภูธรหนองจิก เข้าชี้แจงประเด็นการเยียวยา การชดใช้ การช่วยเหลือบุคคลและครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย ผู้บาดเจ็บ และกรณีทรัพย์สินเสียหายหรือสูญหาย โดยคดีนี้ได้มีการจ่ายเงินเยียวยาเรียบร้อยแล้ว และมีการทำบันทึกว่าจะไม่มีการดำเนินคดีอาญาใด ๆ อีก ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวไม่สามารถทำให้คดีซึ่งเป็นคดีอาญาแผ่นดินยอมความกันได้
ส่วนกรณีของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั้นยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ขณะเดียวกันประเด็นการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งกระทำหรือรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากระยะเวลาเกิดเหตุจนถึงปัจจุบันล่วงเลยมาเป็นระยะเวลานาน จึงไม่พบสำนวนการดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่รัฐผู้ก่อเหตุ เป็นเหตุให้ไม่สามารถดำเนินการทางคดีได้แต่อย่างใด ผู้แทนจากสำนักงานอัยการภาค 9 และตำรวจภูธรภาค 9 จึงขอเวลาในการติดตามสำนวนการดำเนินคดีอาญาที่เกี่ยวข้องและจะแจ้งผลการดำเนินการหรือผลความคืบหน้าต่อคณะ กมธ. ภายในระยะเวลา 30 วัน นับจากวันประชุม อีกทั้งยังมีข้อเสนอให้ตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างพนักงานอัยการและพนักงานสอบสวนเพื่อสอบหาสำนวนการดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่รัฐในเหตุการณ์ดังกล่าว คณะ กมธ. จึงมีมติให้ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บังคับบัญชา ให้เร่งรัดดำเนินการติดตามผลหรือความคืบหน้าของคดี และหากมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อาจเข้าข่ายความรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วยเหตุการณ์สลายการชุมนุมกรณีตากใบนี้ เป็นกรณีที่มีความร้ายแรง แม้รัฐจะดำเนินการเยียวยาบุคคลผู้ได้รับผลกระทบไปแล้ว แต่ก็ไม่อาจเป็นเหตุให้คดีซึ่งเป็นคดีอาญาแผ่นดินระงับ โดยเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องยังคงต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย เพื่อตอบคำถามของสังคมก่อนที่คดีจะขาดอายุความ