นายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สส.พรรคก้าวไกล รับยื่นหนังสือจาก นายสุวิทย์ เวียงบรรพต บิดาของพลทหารกิตติธร เวียงบรรพต ทหารเกณฑ์ผลัดที่ 1 ค่ายเม็งรายมหาราช จ.เชียงราย ที่เสียชีวิตจากการฝึกทหาร พร้อมด้วย น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เพื่อขอให้ติดตามการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของพลทหารกิตติธร เวียงบรรพต
วันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม 2566 เวลา 14.20 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สส.พรรคก้าวไกล รับยื่นหนังสือจาก นายสุวิทย์ เวียงบรรพต บิดาของพลทหารกิตติธร เวียงบรรพต ทหารเกณฑ์ผลัดที่ 1 ค่ายเม็งรายมหาราช จ.เชียงราย ที่เสียชีวิตจากการฝึกทหาร พร้อมด้วย น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เพื่อขอให้ติดตามการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของพลทหารกิตติธร เวียงบรรพต โดยในวันนี้ (14 ธ.ค. 66) นายสุวิทย์ เวียงบรรพต ได้ยื่นหนังสือต่อ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะ กมธ.การทหาร เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จริงและเรียกร้องความเป็นธรรม เนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 66 บิดาและภรรยาของพลทหารกิตติธร ได้เดินทางไปรับพลทหารกิตติธรที่ค่ายเม็งรายมหาราช จ.เชียงราย และพบว่า พลทหารกิตติธร มีอาการอิดโรย ตัวซีด ไข้ขึ้น มีอาการร้อนและหนาวสลับกัน ซึ่งจากการสอบถามภรรยาของพลทหารกิตติธร แจ้งว่าก่อนหน้านี้พลทหารกิตติธร มีบาดแผลที่บริเวณหัวเข่าซึ่งเกิดจากการฝึกและมีอาการป่วยมาหลายวัน พลทหารกิตติธรพยายามขอให้ผู้บังคับบัญชาส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแต่ไม่ได้รับการอนุญาต ภรรยาของพลทหารกิตติธร จึงยืนยันขอให้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช แต่อาการไม่ดีขึ้น ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 66 พลทหารกิตติธร ถูกนำตัวส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยแพทย์ที่รักษาระบุว่า เสียชีวิตเนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด และเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 66 บิดาและภรรยาของพลทหารกิตติธร จึงได้ร้องเรียนต่อพนักงานอัยการ ศูนย์ป้องกันการทรมาน - อุ้มหาย จ.เชียงรายว่า มีข้อสงสัยต่อการเสียชีวิตของพลทหารกิตติธรเป็นอย่างมาก และได้ส่งร่างของพลทหารกิตติธร ไปผ่าชันสูตรศพเพื่อค้นหาสาเหตุการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ทั้งนี้ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม มีความเห็นว่า การเสียชีวิตของพลทหารกิตติธร หากไม่มีการสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวจะทำให้ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นต่อหน่วยงานรัฐและทำให้เกิดทัศนคติว่าหน่วยงานต้นสังกัดของทหารไม่ให้ความเป็นธรรมต่อกรณีการเสียชีวิตของพลทหารกิตติธร ผู้มีอาชีพการงานที่ดี เป็นเสาหลักของครอบครัว ของชุมชนชนเผ่าพื้นเมืองชาวม้ง แต่เวลาได้ล่วงเลยมากว่า 6 เดือนแล้วนับตั้งแต่เสียชีวิต แต่ครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิตยังไม่ได้รับการชดใช้เยียวยาและการเข้าถึงความเป็นธรรมแต่อย่างใด จึงได้ยื่นหนังสือต่อคณะ กมธ.การทหาร เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีการเสียชีวิตของพลทหารกิตติธร ที่เกิดจากการฝึกทหาร การลงโทษโดยครูฝึก และการปล่อยปละละเลยของผู้บังคับบัญชาที่ไม่ส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลในเวลาอันควร ซึ่งเป็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 มาตรา 6 จึงต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมและนำผู้กระทำความผิดที่แท้จริงมาลงโทษ เพื่อเป็นการเยียวยาครอบครัวของพลทหารกิตติธร
นายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล กล่าวว่า ในแต่ละปีมีกลุ่มชาติพันธุ์ไปเป็นพลทหารจำนวนมาก เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ทำให้กลุ่มชาติพันธุ์และคนอื่น ๆ เกิดความหวาดระแวงและหวาดกลัว โดยเฉพาะในหมู่ญาติ จึงต้องการให้หน่วยงานที่ส่วนเกี่ยวข้องได้แสดงความรับผิดชอบต่อกรณีนี้อย่างจริงจังและจริงใจ และดำเนินการตามมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นอีกเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้จะเป็นรั้วของชาติต่อไป