รองประธาน คณะ กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน คนที่สี่ รับยื่นหนังสือจาก นายพชร คำชำนาญ ตัวแทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ กลุ่ม P-Move เพื่อขอให้ตรวจสอบการบังคับใช้ พ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชน
วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ รองประธาน คณะ กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน คนที่สี่ รับยื่นหนังสือจาก นายพชร คำชำนาญ ตัวแทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ กลุ่ม P-Move เพื่อขอให้ตรวจสอบการบังคับใช้ พ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชน
ด้วยกลุ่ม P-Move เป็นประชาชน คนจน เกษตรกรรายย่อย และกลุ่มชาติพันธุ์ ที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายและนโยบายของรัฐในด้านที่ดิน ที่ทำกิน ที่อยู่อาศัย จึงได้ออกมาชุมนุมเรียกร้องต่อรัฐบาล เมื่อวันที่ 5 - 28 ก.พ. 67 ก่อนจะประกาศยุติการชุมนุมหลังจากบรรลุข้อเรียกร้อง ทั้งนี้ ภายหลังยุติการชุมนุมได้มีหมายเรียกผู้ต้องหาส่งมาถึงแกนนำ ซึ่งกลุ่มปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากยืนยันสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 34 และมาตรา 44 รวมถึงกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่ไทยร่วมเป็นภาคี อย่างไรก็ตามขอให้ คณะ กมธ. ช่วยตรวจสอบการบังคับใช้ พ. ร. บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ว่าละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนหรือไม่ และขอให้เร่งประสานภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อหาแนวทางแก้ไขข้อจำกัดหรือยกเลิก พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ซึ่งไม่เอื้ออำนวยให้ประชาชนสามารถจัดการชุมนุมได้อย่างสันติ แต่กลับถูกนำมาบังคับใช้เพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน
นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า คณะ กมธ. ให้ความสำคัญในสิทธิเสรีภาพและการแสดงออกทางการเมือง กรณีของกลุ่ม P-Move เป็นการเรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่งจะนำเรื่องดังกล่าวหารือในการประชุมคณะ กมธ. ภายในวันนี้ เพื่อจะเตรียมการนัดหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกลุ่ม P-Move เข้าร่วมหารือเพื่อแนวทางแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ คณะ กมธ. ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาศึกษาและยกร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะขึ้นใหม่เพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออกทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย