ประธานคณะกมธ. การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนา เรื่อง การแก้ไขปัญหา การจัดการขยะ และสิ่งแวดล้อม อย่างบูรณาการ
วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมสัมมนา B1-2 ชั้น B1 อาคารรัฐสภา นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี ประธานคณะ กมธ. การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนา เรื่อง “การแก้ไขปัญหาการจัดการขยะและสิ่งแวดล้อมอย่างบูรณาการ”
จากนั้น เป็นการอภิปราย เรื่อง "ทางออกการจัดการขยะไทย" โดยมีการแบ่งหัวข้อสำคัญ ๆ ประกอบด้วย 1. การนำ
หลักการการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility (EPR) เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการขยะของประเทศ โดย น.ส.สุจิตรา วาสนาดำรงดี ที่ปรึกษาคณะอนุ กมธ. พิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาการจัดการขยะ
และสิ่งแวดล้อมอย่างบูรณาการ 2. กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารจัดการขยะที่ต้องปรับปรุงแก้ไข โดย น.ส.เพ็ญโฉม แช่ตั้ง
ที่ปรึกษาคณะพิจารณาศึกษาการแก้ไขปัญหาการจัดการขยะ และสิ่งแวดล้อมอย่างบูรณาการ 3. การบริหารจัดการ
ขยะต้นทาง และกลางทาง
โดย นายอัครพล ทองพูน อนุ กมธ. และ 4. การบริหารจัดการขยะที่ปลายทาง รวมทั้งที่มาและความสำคัญของ (ร่าง)
พระราชบัญญัติการจัดการขยะและการหมุนเวียนทรัพยากร พ.ศ. .... โดย นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี ประธานคณะ กมธ.
ดำเนินการอภิปรายโดย นายวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล เลขานุการคณะอนุ กมธ.ทั้งนี้ในเวลา 12.45 น. นายปดิพัทธ์
สันดิภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เข้าร่วมรับฟังการแถลงข้อเสนอการจัดการขยะในพื้นที่อาคารรัฐสภา
ภายใต้โครงการสัมมนา เรื่อง “การแก้ไขปัญหาการจัดการขยะและสิ่งแวดล้อมอย่างบูรณาการ” ที่นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี
ประธานคณะ กมธ. ร่วมศึกษาข้อมูลและจัดทำข้อเสนอเกี่ยวกับการจัดเลี้ยงในพื้นที่อาคารรัฐสภาเพื่อลดการสร้างขยะ
และการพัฒนาระบบคัดแยกขยะของรัฐสภา โดยมี ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสำนักงานเลขาธิการ
สภาผู้แทนราษฎร คณะผู้บริหารสำนักงานฯ ผู้แทนสถานทูตเดนมาร์ก เจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ
(UNDP) และประชาชนเข้าร่วมการสัมมนาฯ
โอกาสนี้ นายปดิพัทธ์ สันดิภาดา กล่าวขอบคุณการแถลงข้อเสนอการจัดการขยะในพื้นที่อาคารรัฐสภา พร้อมทั้งกล่าว
เพิ่มเติมว่า ยังมีข้อจำกัดหลายด้านซึ่งต้องให้ความสำคัญในการจัดการขยะให้เป็นศูนย์และการจัดการองค์กร
ด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ รัฐสภา ประกอบด้วย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
ทั้งสองสำนักงานยังไม่ได้ร่วมกันจัดการเรื่องดังกล่าว จึงมีนโยบายในการปรับปรุงโครงสร้างเพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน อย่างไรก็ตามจะเร่งนำข้อเสนอดังกล่าวเสนอต่อประธานรัฐสภา และคณะกรรมการขับเคลื่อนสำนักงานเลขาธิการ
สภาผู้แทนราษฎรเป็นสำนักงานสีเขียว (Green Office) ซึ่งจะต้องร่วมกันปรับปรุงทำให้เป็นนโยบายที่ชัดเจน
และเป็นองค์ที่เป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป
สำหรับการสัมมนาดังกล่าวจัดโดย คณะ กมธ.การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อเป็นการหาทางออกที่เหมาะสมของประเทศไทยในการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง สร้างองค์ความรู้ใหม่ในการจัดการขยะ โดยไม่ยึดติดกับกรอบการแก้ไขปัญหาขยะด้วยการเก็บขนและกำจัดอย่างที่ผ่านมา
แต่ต้องทำให้ทุกภาคส่วนมีความรู้ ความเข้าใจ และมีความรู้สึกว่าตนเป็นส่วนหนึ่งที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยแสดง
ให้เห็นบทบาทและหน้าที่ของประชาชนที่สามารถดำเนินการร่วมกันกับภาครัฐในการจัดการขยะได้ ซึ่งจะส่งผลให้
การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นำประเทศไปสู่การมีส่วนร่วม
ในการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจากหลายภาคส่วน