นางปทิดา ตันติรัตนานนท์ พร้อมด้วย นายยูนัยดี วาบา โฆษกคณะ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ แถลงข่าวเกี่ยวกับผลการพิจารณาเรื่องที่คณะกมธ.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ โดยได้รับทราบถึงปัญหาการโฆษณาอาหารเสริมที่สุ่มเสี่ยงจะผิดกฎหมาย
วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2567 เวลา 13.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นางปทิดา ตันติรัตนานนท์ พร้อมด้วย นายยูนัยดี วาบา โฆษกคณะ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ แถลงข่าวเกี่ยวกับผลการพิจารณาเรื่องที่คณะกมธ.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ โดยได้รับทราบถึงปัญหาการโฆษณาอาหารเสริมที่สุ่มเสี่ยงจะผิดกฎหมาย โดยมีดารานักแสดง Influencer รับงานโฆษณา รวมถึงพบปัญหาการใส่สารผิดกฎหมายอย่างสารไซบูทรามีน (Sibutramine) และซิลเดนาฟิล (Sildenafil) อย่างแพร่หลาย ด้านการประกอบธุรกิจเริ่มตั้งแต่การจดจัดตั้งก็มีการดำเนินการล่าช้ากว่าครึ่งปี ค่าใช้จ่ายต่อการตรวจสูงถึงหลักล้าน การเข้าตรวจค้นผู้ประกอบการโดยไม่แสดงตัว เพื่อเปิดช่องให้มีการเรียกรับสินบน ด้านการนำเข้ามีกระบวนการเรียกรับสินบนเพื่อเลี่ยงการตรวจสอบและการอายัด ด้านกระบวนการทางภาษีมีบริษัทเปิดขายใบกำกับภาษีปลอมโดยทั่วไป มีการใส่สารประกอบที่ผิดกฎหมาย เมื่อตรวจพบมีการดำเนินการสอบสวนตามกฎหมายและส่งต่อให้ตำรวจในการดำเนินคดีเสมอ เพื่อเอาผิดให้ถึงที่สุด แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อปิดบริษัทหนึ่งไป แต่ยังไม่มีข้อกฎหมายที่ห้ามในการกลับมาขอเปิดบริษัทใหม่อีกครั้ง ดังนั้น นายทุนเจ้าของบริษัทย่อมสามารถกลับมาเปิดได้อีกครั้ง ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ต้องการให้มีกฎหมายที่ครอบคลุมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้มีส่วนรับผิดชอบต่อการกระทำผิดเหล่านี้ และขอให้ตรวจสอบการอนุญาตของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และกรมสรรพสามิต ซึ่งกระทบต่อผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนมาก
หลังจากการพิจารณาเรื่องดังกล่าว คณะกมธ. ได้มีมติและข้อคิดเห็น ดังนี้
1. ขอให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ตรวจสอบข้อร้องเรียนตามหลักฐานและข้อมูลของผู้ร้องตามที่ได้ชี้แจงต่อคณะ กมธ. พร้อมรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบกลับมาภายใน 30 วัน
2. ขอให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา พิจารณามาตรการกำกับดูแลในกลุ่มธุรกิจอาหารเสริมที่มีส่วนผสมที่ผิดกฎหมายหรืออาหารเสริมปลอมที่มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค
3. คณะ กมธ. จะทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสอบถามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดว่าด้วยการนำเข้าสารเคมีผิดกฎหมาย