นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด และนายวัชระพล ขาวขำ โฆษกคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 แถลงข่าว
สำหรับการประชุมในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการพิจารณางบประมาณของกระทรวงพลังงาน กระทรวงยุติธรรมกระทรวงแรงงาน และกระทรวงสาธารณสุข โดยที่ประชุมมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานที่เข้าพิจารณา ดังนี้ กระทรวงพลังงาน สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน พิจารณาศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการร่วมกิจการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวงมารวมไว้ที่กระทรวงพลังงาน เพื่อให้เกิดการบริหารกิจการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและเอกภาพมากกว่าในปัจจุบัน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานพลังงาน การพิจารณาแผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้า หรือแผน PDP ควรพิจารณาบนพื้นฐานของข้อมูลที่มีความทันสมัย โดยเฉพาะจำนวนของประชากรที่มีผลต่อการพยากรณ์ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในอนาคต กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ควรพิจารณาอนุมัติใบอนุญาตให้ก่อตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานพลังงานแสงอาทิตย์โดยเร็ว เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและสร้างรายได้ให้กับประชาชนกระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ที่ได้รับการพักการลงโทษ และผู้พ้นกระบวนการพัฒนาพฤตินิสัย ควรเปลี่ยนคำว่า “สร้างมูลค่าเพิ่ม” เป็น “เพิ่มทักษะ up skill” กรมราชทัณฑ์ ควรมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานเอกชน กระทรวงแรงงาน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพเพื่อจัดทำหลักสูตรออนไลน์หรืออบรมหลักสูตรระยะสั้นแล้วนำมาพิจารณาลดโทษให้กับนักโทษที่อยู่ในเรือนจำหรือในสถานพินิจ เพื่อแก้ปัญหานักโทษล้นคุก สำหรับประเด็น บัญชีม้า ที่มีการหลอกลวงประชาชนให้เสียทรัพย์สินและสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนจำนวนมาก ควรให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นหน่วยงานหลักในการปราบปราม และควรพิจารณารับคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นคดีพิเศษ เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับกระทรวงแรงงาน สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน การส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศ ควรคำนึงถึงสิทธิแรงงานและติดตามที่อยู่ของไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือได้ทัน และควรมีมาตรการในการแก้ปัญหาแรงงานไม่เพียงพออย่างยั่งยืน ประเด็นที่ควรแก้ไขโดยเร่งด่วนคือ หลักสูตรการเรียนการสอนที่ไม่สอดคล้องตลาดแรงงาน โดยคณะกมธ. เสนอให้กระทรวงแรงงานทำข้อมูลกลางร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อคาดการณ์ตลาดแรงงานและกำหนดหลักสูตรการศึกษาให้สอดคล้องกับตลาดแรงงาน สำหรับกรณีข้อมูลแรงงานเถื่อนในประเทศไทยที่มีการลักลอบเข้าเมืองตลอดเวลาซึ่งหน่วยงานของรัฐยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนในส่วนนี้เพราะฉะนั้นกรมการหางานควรมีมาตรการเปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวสำหรับคนกลุ่มนี้ สำหรับในวันนี้ คณะ กมธ. พิจารณางบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ คณะกมธ. คาดการณ์ว่าจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ทั้งฉบับเสร็จสิ้นในช่วงประมาณวันที่ 16 ส.ค. 67 และจะเข้าสู่ การพิจารณาของสภา ฯ ในวาระสองและวาระสามช่วงต้นเดือน ก.ย. 67