สหราชอาณาจักร
หมวดการเมือง
ข่าวประจำวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๗
รัฐบาลสหราชอาณาจักรมีแผนสำหรับการห้ามสูบบุหรี่ภายนอกโรงเรียน โรงพยาบาลและสนามเด็กเล่น เพื่อเป็นการลดความกดดันในการดำเนินการของภาครัฐด้านระบบบริการสุขภาพแห่งชาติและเป็นการลดค่าใช้จ่ายของผู้เสียภาษี
ร่างพระราชบัญญัติยาสูบและบุหรี่ไฟฟ้าของรัฐบาลจะถูกนำเสนอต่อรัฐสภาสหราชอาณาจักรในวันอังคารที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการห้ามสูบบุหรี่ที่เข้มงวดที่สุดในโลก รวมถึงการห้ามเยาวชนสูบบุหรี่
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ยกเลิกแผนการห้ามการสูบบุหรี่ภายนอกสถานบันเทิงและร้านกาแฟ ภายหลังจากที่มีความกังวลเกี่ยวกับผล กระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการบริการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายเวส สตรีติง) กล่าวในแถลงการณ์ว่า “หากเราไม่ดำเนินการ เพื่อช่วยให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีความเจ็บป่วยที่เพิ่มมากขึ้นในสังคมของเรานั้นอาจคุกคามต่อระบบบริการสุขภาพแห่งชาติอย่างมากและเกิดการล่มสลายทางการเงินได้โดยกฎหมายประวัติศาสตร์ฉบับนี้จะช่วยชีวิตผู้คนได้เป็นจำนวนมาก”
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร (นายเคียร์สตาร์เมอร์) ได้กล่าวว่า ตัวเขาเองสนับสนุนแนวคิดในการห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่ภายนอก เช่น ผับกลางแจ้ง
สมาคมเบียร์และผับในสหราชอาณาจักร กล่าวว่าแผนการดังกล่าวเป็นเรื่องที่ “น่ากังวลอย่างยิ่ง” และจะส่ง “ผลกระทบอย่างร้ายแรง” ต่อสถานที่ต่าง ๆ ที่กำลังประสบปัญหาเรื่องต้นทุนที่สูงขึ้น
ในเดือนกันยายน ผลสำรวจของ YouGov พบว่า ชาวอังกฤษจำนวนกว่าสามในสี่คน สนับสนุนการห้ามสูบบุหรี่นอกโรงพยาบาล แต่มีความคิดเห็นแตกต่างกันมากกว่าเกี่ยวกับการนำมาตรการดังกล่าวไปใช้ในผับกลางแจ้ง
รัฐบาลกล่าวว่า จะได้รับอำนาจตามกฎหมายใหม่ในการห้ามสูบบุหรี่นอกพื้นที่กลางแจ้งบางแห่ง เช่น สนามเด็กเล่น โรงเรียน และโรงพยาบาล แต่แผนดังกล่าวยังต้องหารือกันต่อไป
รัฐบาลอนุรักษ์นิยมชุดก่อนนั้นได้ประกาศมาตรการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เพื่อสร้างยุคแรกแห่งการปลอดบุหรี่ อย่างไรก็ตาม แผนการดังกล่าวยังไม่เคยไปสู่กฎหมาย ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในฤดูร้อน ซึ่งพรรคได้สูญเสียอำนาจไป
กฎหมายฉบับใหม่จะเป็นการรับประกันว่า บุคคลใดก็ตามที่มีอายุต่ำกว่า ๑๕ ปีหรือน้อยกว่านั้น ห้ามซื้อบุหรี่และมีเป้าหมายจะทำให้บุหรี่ไฟฟ้าในหมู่เยาวชนนั้นเป็นที่ดึงดูดน้อยลง
รัฐบาลกล่าวว่า การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิต จำนวนราว ๘๐,๐๐๐ รายต่อปีและก่อต้นทุนทางเศรษฐกิจเป็นจำนวน ๒๑.๘ ล้านปอนด์ (คิดเป็น ๒๘.๒๒ ล้านดอลลาร์ต่อปี) ในการสูญเสียผลผลิตและค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพและการดูแลรักษา ซึ่งมากกว่ารายได้จากการจัดเก็บภาษีที่รัฐบาลได้รับเป็นอย่างมาก
สหราชอาณาจักรจึงได้มีการห้ามการสูบบุหรี่เกือบทุกแห่งของพื้นที่สาธารณะ รวมถึงบาร์และสถานที่ทำงาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๐ องค์กรวิจัยมะเร็งของอังกฤษกล่าวว่า สิ่งนี้จะทำให้มีการสูบบุหรี่ลดลง จำนวนกว่า ๑.๙ ล้านคน และการวิจัยในวารสารทางการแพทย์อังกฤษประเมินว่า จะมีการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการหัวใจวายลดลงถึง ๑,๒๐๐ ครั้งในปีถัดไป
.........................................................................................
ที่มาของข่าว : https://www.reuters.com/world/uk/britain-ban-smoking-outside-schools-hospitals-playgrounds-2024/
ผู้แปล : นางสาวรุจิราภรณ์ คำหลง นักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ
กลุ่มงานภาษาอังกฤษ
ผู้ทาน : นายกิตติ เสรีประยูร ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานภาษาอังกฤษ
นางสาวศิรสา ชลายนานนท์ นักวิเทศสัมพันธ์เชี่ยวชาญ
ผู้ตรวจ : นางบุณฑริกา ชุณหะนันทน์ ที่ปรึกษาด้านต่างประเทศ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักภาษาต่างประเทศ