ผู้อพยพชาวคิวบาที่สหรัฐอเมริกาไม่ให้เข้าประเทศ เดินทางถึงคิวบาแล้วโดยเที่ยวบินส่งกลับเที่ยวบินแรก
สาธารณรัฐคิวบา
ข่าวประจำวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๖
หมวด สังคม
ทางการคิวบายืนยันว่า เที่ยวบินที่พาชาวคิวบาจำนวนกว่า ๔๐ คนที่ถูกกักตัวบนเรือและอีก ๘๓ คนที่ต้องอยู่ที่พรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกได้เดินทางถึงคิวบาแล้ว โดยเที่ยวบินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเที่ยวบินส่งกลับอันเป็นความตกลงระหว่างคิวบาและสหรัฐอเมริกา ซึ่งต้องเว้นไปในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากการระบาดของโควิด-๑๙
เที่ยวบินส่งกลับดังกล่าวนับเป็นเที่ยวบินแรกตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๕๖๓ โดยมีชาวคิวบาจำนวน ๑๒๓ คนที่สหรัฐอเมริกาส่งตัวกลับ ทั้งนี้ การส่งผู้อพยพชาวคิวบากลับประเทศดำเนินการในช่วงที่องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนวิพากษ์วิจารณ์ถึงความแข็งกร้าวต่อนโยบายผู้อพยพของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตามนโยบายลักษณะ ๔๒ ของกฎหมายสาธารณสุข[1] อันเป็นมรดกจากสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
การที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาส่งชาวคิวบากลับประเทศไม่ใช่เรื่องใหม่ นอกจากนั้น ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาได้ส่งชาวคิวบาที่ลอยแพหรือล่องเรือมายังชายฝั่งสหรัฐอเมริกากลับประเทศมากขึ้น ขณะเดียวกัน การส่งกลับทางเครื่องบินได้กลับมาดำเนินการอีกครั้งหลังจากชะลอไป ๒ ปี ในช่วงการระบาดของโควิด-๑๙
ผู้อพยพที่ถูกส่งกลับจำนวน ๘๓ คน เดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาทางพรมแดนตอนใต้ซึ่งติดกับเม็กซิโก ส่วนชาวคิวบากว่า ๔๐ คนถูกกักตัวไว้เมื่อลอยแพมาถึงชายฝั่งสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี ๒๕๖๓-๒๕๖๕
ทั้งนี้ ชาวคิวบาที่ถูกส่งกลับประเทศเป็นส่วนหนึ่งของรายชื่อ “ผู้ที่โดนผลักดันและส่งกลับ” ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในบัญชีที่ต้องเนรเทศ แต่ไม่มีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อการกลั่นแกล้งทางการเมืองในคิวบา การเนรเทศชาวคิวบาซึ่งเป็นบุคคลที่ “โดนผลักดันและส่งกลับ” เป็นการทำความตกลงร่วมกันระหว่างรัฐบาลคิวบาและสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๐ แต่โครงการดังกล่าวต้องชะงักลงเพราะการระบาดของโควิด-๑๙ และความสัมพันธ์ที่กลับมาเย็นชาอีกครั้งภายหลังการผ่อนคลายความตึงเครียดคิวบา-สหรัฐอเมริกา[2]
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของคิวบาแถลงยืนยันว่า เที่ยวบินดังกล่าวเป็นผลจากความร่วมมือระหว่างคิวบาและสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความตกลงในเรื่องผู้อพยพระหว่างกัน
ทางการคิวบายืนยันว่า เตรียมพร้อมรับเที่ยวบินผู้อพยพที่ถูกส่งกลับ อย่างไรก็ตาม ยังไม่กำหนดความถี่ของเที่ยวบินส่งกลับ เนื่องจากก่อนหน้าที่จะเว้นชะลอการส่งกลับนั้น มีเที่ยวบินส่งผู้อพยพจากสหรัฐอเมริกากลับคิวบาอย่างน้อยเดือนละ ๒ เที่ยวบิน
ข้อมูลของสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐอเมริกาพบว่า เดือนธันวาคม ๒๕๖๕ มีชาวคิวบาเดินทางมาถึงชายแดนสหรัฐอเมริกามากกว่า ๔๔,๐๐๐ คน โดยมียอดรวมทั้งสิ้น ๓๑๓,๔๘๘ คน
แต่เดิมสหรัฐอเมริกามีกฎหมาย Cuban Adjustment Act ซึ่งเป็นกฎหมายที่ให้สิทธิประโยชน์เป็นพิเศษแก่ผู้อพยพชาวคิวบาที่เดินทางไปถึงชายแดนสหรัฐอเมริกา
ลดการเดินทางข้ามไปยังสหรัฐอเมริกา
ก่อนมีประเด็นถกเถียงเรื่องนโยบายผู้อพยพตามลักษณะ ๔๒ นั้น กฎหมาย Cuban Adjustment Act ให้ความสำคัญกับผู้อพยพชาวคิวบาที่มาถึงชายแดนสหรัฐอเมริกามากกว่าผู้อพยพชาติอื่น แต่ปัจจุบันทางการสหรัฐอเมริกาเข้มงวดมากขึ้นอันเป็นผลจากนโยบายลักษณะ ๔๒ ประกอบกับเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ส่งผู้ขออพยพกลับประเทศได้
การนำลักษณะ ๔๒ มาใช้เป็นนโยบายผู้อพยพที่ผลักดันโดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคเดโมแครตเป็นอย่างมาก ทว่า เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กลับขยายระยะเวลานโยบายดังกล่าว และจำกัดสิทธิในการขออพยพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ขออพยพชาวคิวบา นิการากัว ไฮติ และเวเนซุเอลา
ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาเริ่มปฏิเสธผู้อพยพจากประเทศเหล่านี้ที่ข้ามพรมแดนมาทางใต้ จากข้อมูลของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ พบว่า ช่วงต้นปีที่ผ่านมาการกักกันผู้อพยพที่ชายแดนตอนใต้ลดลงถึงร้อยละ ๙๖
ขณะเดียวกัน รัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดนสนับสนุนนโยบายส่งเสริมผู้อพยพปกติและนำนโยบาย Humanitarian Parole มาใช้ ซึ่งเป็นการอนุญาตเพื่อมนุษยธรรมสำหรับคนสัญชาติคิวบา นิการากัว ไฮติ และเวเนซุเอลา ที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้รับเลือกให้เข้าประเทศ โดยสหรัฐอเมริกามีโควตาในการตรวจลงตรา ๓๐,๐๐๐ คนต่อเดือน ซึ่งอนุญาตให้อยู่ในสหรัฐอเมริกาได้ ๒ ปีสำหรับผู้ที่เข้าประเทศโดยเครื่องบิน และมีผู้สนับสนุนทางการเงินในสหรัฐอเมริกาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้เตรียมจัดทำหลักเกณฑ์สำหรับการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกขึ้นใหม่ เนื่องจากการบังคับใช้ลักษณะ ๔๒ จะสิ้นสุดในวันที่ ๑๑ พฤษภาคม นี้ นายอเลฆันโดร มายอร์กาส ชาวคิวบาอเมริกัน เจ้าหน้าที่จากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิได้ยืนยันว่า อีกไม่ช้าจะสามารถให้รายละเอียดที่หน่วยงานต่าง ๆ นำนโยบายใหม่มาบังคับใช้ได้
ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาได้ยกเลิกกระบวนการตรวจลงตราผู้อพยพและบริการอื่น ๆ ของสถานกงสุลในกรุง
ฮาบานา เมืองหลวงของคิวบา ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเป็นส่วนหนึ่งของการลดแรงกดดันที่พรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกากับเม็กซิโกลง
ที่มาของข่าว : https://www.france24.com/es/am%C3%A9rica-latina/20230425-los-inadmisibles-vuelven-a-cuba-tras-primer-vuelo-de-deportaci%C3%B3n-desde-ee-uu
ผู้แปล : นางสาวฤทัยชนก เมืองรัตน์ นักวิเทศสัมพันธ์ชำนาญการพิเศษ
กลุ่มงานภาษาสเปน เยอรมันและอาหรับ
ผู้ทาน นางสาวศิรสา ชลายนานนท์ นักวิเทศสัมพันธ์เชี่ยวชาญ
กลุ่มงานภาษาอังกฤษ
ผู้ตรวจ : นางสาวกฤษณี มาศรีจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักภาษาต่างประเทศ
สำนักภาษาต่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ข่าวประจำวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๖
หมวด สังคม
ทางการคิวบายืนยันว่า เที่ยวบินที่พาชาวคิวบาจำนวนกว่า ๔๐ คนที่ถูกกักตัวบนเรือและอีก ๘๓ คนที่ต้องอยู่ที่พรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกได้เดินทางถึงคิวบาแล้ว โดยเที่ยวบินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเที่ยวบินส่งกลับอันเป็นความตกลงระหว่างคิวบาและสหรัฐอเมริกา ซึ่งต้องเว้นไปในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากการระบาดของโควิด-๑๙
เที่ยวบินส่งกลับดังกล่าวนับเป็นเที่ยวบินแรกตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๕๖๓ โดยมีชาวคิวบาจำนวน ๑๒๓ คนที่สหรัฐอเมริกาส่งตัวกลับ ทั้งนี้ การส่งผู้อพยพชาวคิวบากลับประเทศดำเนินการในช่วงที่องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนวิพากษ์วิจารณ์ถึงความแข็งกร้าวต่อนโยบายผู้อพยพของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตามนโยบายลักษณะ ๔๒ ของกฎหมายสาธารณสุข[1] อันเป็นมรดกจากสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
การที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาส่งชาวคิวบากลับประเทศไม่ใช่เรื่องใหม่ นอกจากนั้น ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาได้ส่งชาวคิวบาที่ลอยแพหรือล่องเรือมายังชายฝั่งสหรัฐอเมริกากลับประเทศมากขึ้น ขณะเดียวกัน การส่งกลับทางเครื่องบินได้กลับมาดำเนินการอีกครั้งหลังจากชะลอไป ๒ ปี ในช่วงการระบาดของโควิด-๑๙
ผู้อพยพที่ถูกส่งกลับจำนวน ๘๓ คน เดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาทางพรมแดนตอนใต้ซึ่งติดกับเม็กซิโก ส่วนชาวคิวบากว่า ๔๐ คนถูกกักตัวไว้เมื่อลอยแพมาถึงชายฝั่งสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี ๒๕๖๓-๒๕๖๕
ทั้งนี้ ชาวคิวบาที่ถูกส่งกลับประเทศเป็นส่วนหนึ่งของรายชื่อ “ผู้ที่โดนผลักดันและส่งกลับ” ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในบัญชีที่ต้องเนรเทศ แต่ไม่มีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อการกลั่นแกล้งทางการเมืองในคิวบา การเนรเทศชาวคิวบาซึ่งเป็นบุคคลที่ “โดนผลักดันและส่งกลับ” เป็นการทำความตกลงร่วมกันระหว่างรัฐบาลคิวบาและสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๐ แต่โครงการดังกล่าวต้องชะงักลงเพราะการระบาดของโควิด-๑๙ และความสัมพันธ์ที่กลับมาเย็นชาอีกครั้งภายหลังการผ่อนคลายความตึงเครียดคิวบา-สหรัฐอเมริกา[2]
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของคิวบาแถลงยืนยันว่า เที่ยวบินดังกล่าวเป็นผลจากความร่วมมือระหว่างคิวบาและสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความตกลงในเรื่องผู้อพยพระหว่างกัน
ทางการคิวบายืนยันว่า เตรียมพร้อมรับเที่ยวบินผู้อพยพที่ถูกส่งกลับ อย่างไรก็ตาม ยังไม่กำหนดความถี่ของเที่ยวบินส่งกลับ เนื่องจากก่อนหน้าที่จะเว้นชะลอการส่งกลับนั้น มีเที่ยวบินส่งผู้อพยพจากสหรัฐอเมริกากลับคิวบาอย่างน้อยเดือนละ ๒ เที่ยวบิน
ข้อมูลของสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐอเมริกาพบว่า เดือนธันวาคม ๒๕๖๕ มีชาวคิวบาเดินทางมาถึงชายแดนสหรัฐอเมริกามากกว่า ๔๔,๐๐๐ คน โดยมียอดรวมทั้งสิ้น ๓๑๓,๔๘๘ คน
แต่เดิมสหรัฐอเมริกามีกฎหมาย Cuban Adjustment Act ซึ่งเป็นกฎหมายที่ให้สิทธิประโยชน์เป็นพิเศษแก่ผู้อพยพชาวคิวบาที่เดินทางไปถึงชายแดนสหรัฐอเมริกา
ลดการเดินทางข้ามไปยังสหรัฐอเมริกา
ก่อนมีประเด็นถกเถียงเรื่องนโยบายผู้อพยพตามลักษณะ ๔๒ นั้น กฎหมาย Cuban Adjustment Act ให้ความสำคัญกับผู้อพยพชาวคิวบาที่มาถึงชายแดนสหรัฐอเมริกามากกว่าผู้อพยพชาติอื่น แต่ปัจจุบันทางการสหรัฐอเมริกาเข้มงวดมากขึ้นอันเป็นผลจากนโยบายลักษณะ ๔๒ ประกอบกับเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ส่งผู้ขออพยพกลับประเทศได้
การนำลักษณะ ๔๒ มาใช้เป็นนโยบายผู้อพยพที่ผลักดันโดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคเดโมแครตเป็นอย่างมาก ทว่า เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กลับขยายระยะเวลานโยบายดังกล่าว และจำกัดสิทธิในการขออพยพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ขออพยพชาวคิวบา นิการากัว ไฮติ และเวเนซุเอลา
ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาเริ่มปฏิเสธผู้อพยพจากประเทศเหล่านี้ที่ข้ามพรมแดนมาทางใต้ จากข้อมูลของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ พบว่า ช่วงต้นปีที่ผ่านมาการกักกันผู้อพยพที่ชายแดนตอนใต้ลดลงถึงร้อยละ ๙๖
ขณะเดียวกัน รัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดนสนับสนุนนโยบายส่งเสริมผู้อพยพปกติและนำนโยบาย Humanitarian Parole มาใช้ ซึ่งเป็นการอนุญาตเพื่อมนุษยธรรมสำหรับคนสัญชาติคิวบา นิการากัว ไฮติ และเวเนซุเอลา ที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้รับเลือกให้เข้าประเทศ โดยสหรัฐอเมริกามีโควตาในการตรวจลงตรา ๓๐,๐๐๐ คนต่อเดือน ซึ่งอนุญาตให้อยู่ในสหรัฐอเมริกาได้ ๒ ปีสำหรับผู้ที่เข้าประเทศโดยเครื่องบิน และมีผู้สนับสนุนทางการเงินในสหรัฐอเมริกาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้เตรียมจัดทำหลักเกณฑ์สำหรับการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกขึ้นใหม่ เนื่องจากการบังคับใช้ลักษณะ ๔๒ จะสิ้นสุดในวันที่ ๑๑ พฤษภาคม นี้ นายอเลฆันโดร มายอร์กาส ชาวคิวบาอเมริกัน เจ้าหน้าที่จากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิได้ยืนยันว่า อีกไม่ช้าจะสามารถให้รายละเอียดที่หน่วยงานต่าง ๆ นำนโยบายใหม่มาบังคับใช้ได้
ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาได้ยกเลิกกระบวนการตรวจลงตราผู้อพยพและบริการอื่น ๆ ของสถานกงสุลในกรุง
ฮาบานา เมืองหลวงของคิวบา ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเป็นส่วนหนึ่งของการลดแรงกดดันที่พรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกากับเม็กซิโกลง
ผู้แปล : นางสาวฤทัยชนก เมืองรัตน์ นักวิเทศสัมพันธ์ชำนาญการพิเศษ
กลุ่มงานภาษาสเปน เยอรมันและอาหรับ
ผู้ทาน นางสาวศิรสา ชลายนานนท์ นักวิเทศสัมพันธ์เชี่ยวชาญ
กลุ่มงานภาษาอังกฤษ
ผู้ตรวจ : นางสาวกฤษณี มาศรีจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักภาษาต่างประเทศ
สำนักภาษาต่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
เกี่ยวกับเรา
● วีดีทัศน์แนะนำ 3 สำนักฯ
○ สำนักองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ○ สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
○ สำนักภาษาต่างประเทศ
นานาสาระด้านต่างประเทศ
● รัฐสภาไทยกับองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ
● ข่าวต่างประเทศ
● การจัดการความรู้ (KM)
● บทความและงานแปล
● คําศัพท์รัฐสภา
● คู่มือการดำเนินงานของ 3 สำนัก
● จดหมายข่าว GOPAC
เจ้าภาพการประชุม
● สมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 40
● สมัชชาใหญ่สหภาพลูกเสือรัฐสภาโลกครั้งที่ 9
○ ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรการประชุม○ ข้อมูลการประชุมสมัชชาใหญ่สหภาพลูกเสือรัฐสภาโลก ครั้งที่ผ่านมา
○ ข้อมูลการเตรียมการเป็นเจ้าภาพของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
● การประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (APPF) ครั้งที่ 30
○ ข้อมูลเกี่ยวกับกรอบการประชุมรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก○ ข้อมูลการประชุมประจำปี APPF ครั้งล่าสุด 5 ปี
○ ข้อมูลการเตรียมการเป็นเจ้าภาพของรัฐสภาไทยในการจัดประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30
○ ข้อมูลการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30
● คณะกรรมาธิการว่าด้วยสังคมและวัฒนธรรมของสมัชชารัฐสภาเอเชีย
○ ภูมิหลังสมัชชารัฐสภาอาเซียน○ ข้อมูลประเทศไทย
○ กฎบัตรและข้อบังคับการประชุม APA
○ คณะกรรมการเตรียมการประชุมฯ APA
○ ภาพกิจกรรมของคณะผู้แทนไทย
● การประชุม AIPA Caucus ครั้งที่ 13
ฐานข้อมูลการประชุมรัฐสภาระหว่างประเทศ
● การติดตามผลการดำเนินงานตามข้อมติ
○ ข้อมติด้านการเมือง○ ข้อมติด้านเศรษฐกิจ
○ ข้อมติด้านสังคม
○ ข้อมติด้านอื่น ๆ
○ เอกสารผลลัพธ์การประชุม
● ข้อมติการประชุมรัฐสภาระหว่างประเทศ
● SDGs
○ ข้อมูลทั่วไป○ เอกสารสุดท้ายของการประชุม
○ บทอภิปรายในวาระต่าง ๆ
● ข้อบังคับหน่วยประจำชาติไทย
กลุ่มมิตรภาพ
● ใบสมัครสมาชิกกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทยระหว่างประเทศ
● แบบฟอร์มการเปลี่ยนแปลง/แก้ไขสมาชิกภาพของสมาชิกกลุ่มมิตรภาพฯ
● แบบฟอร์มขอลาออกจากตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพ
● คู่มือกลุ่มมิตรภาพ
● แผ่นพับกลุ่มมิตรภาพ
● ข้อมูลกลุ่มมิตรภาพ
● แบบฟอร์มต่างๆ
● รายชื่อประธาน/คณะกรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพ
● ข่าวและกิจกรรมของกลุ่มมิตรภาพ
● อื่นๆ
ความสัมพันธ์รัฐสภาระดับทวิภาคี
● การเยี่ยมคารวะของบุคคลสำคัญชาวต่างชาติ
● รายงานการเดินทางเยือนต่างประเทศ
○ ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร○ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง
○ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง
○ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
● รายงานการรับเยือนบุคคลสำคัญชาวต่างชาติ