ประเทศ   เกาหลี
ข่าวประจำวันที่    ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
หมวด  สังคม (กฎหมาย)

                 เมื่อเร็ว ๆ นี้ รัฐสภาเกาหลีใต้ลงมติเห็นชอบกฎหมายห้ามฆ่าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จาก
เนื้อสุนัข โดยผลการลงมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบ 208 เสียง ไม่มีผู้ไม่เห็นชอบ จากนั้นได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดี Yoon Suk Yeol
                   ทั้งนี้ กระบวนการทางกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ภายในปี พ.ศ. 2570 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการยุติธรรมเนียมเดิมของการบริโภคเนื้อสุนัข โดยสำนักข่าว The Conversation รายงานว่า เนื้อสุนัขเป็นที่นิยมในการบริโภคเป็นลำดับที่ ๔ ต่อจากเนื้อหมู เนื้อวัว และเนื้อไก่ ในประเทศเกาหลีใต้
                   สุนัขมากกว่า ๖ ล้านตัว ได้รับการเลี้ยงดูในฐานะสัตว์เลี้ยงในเกาหลีใต้
                   จากสถิติที่ชี้ให้เห็นว่าการบริโภคสุนัขมีจำนวนลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทัศนคติของคนรุ่นใหม่ที่มีมุมมองต่อสุนัขในฐานะสัตว์เลี้ยงและเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ซึ่งมีการประมาณจำนวนสุนัขในฐานะสัตว์เลี้ยงจำนวน ๖ ล้านตัวในประเทศเกาหลีใต้ และมีเพียงร้อยละ ๘ เท่านั้นที่เคยทดลองบริโภคเนื้อสุนัขในรอบปี
ที่ผ่านมา ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับร้อยละ ๒๗ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๘
                   ธรรมเนียมการบริโภคเนื้อสุนัขนั้นเริ่มขึ้นเมื่อหลายทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากความยากลำบากในการเข้าถึงแหล่งอาหาร เช่น เนื้อวัว โดยธรรมเนียมดังกล่าวดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้สูงวัยที่มีความเชื่อว่า ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรง
                   ร้านอาหารจำหน่ายเนื้อสุนัข ๑,๖๖๐ ร้าน และฟาร์มเลี้ยงสุนัขเพื่อการบริโภค ๑,๑๕๐ แห่ง จะต้องทยอยปิดกิจการเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่
                   ดร. Ahn Yong Geun อดีตอาจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร มหาวิทยาลัยแห่งชาติชุงนัมผู้ซึ่งมีฉายาว่า “ดร. เนื้อสุนัข” โต้แย้งว่า เนื้อสุนัขเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพและสามารถทดแทนเนื้อประเภทอื่นอย่างเนื้อหมูได้ เนื่องจากมีปริมาณไขมันอิ่มตัวที่ต่ำ
                   จากตัวเลขของรัฐบาลระบุว่า ปัจจุบันมีร้านอาหารจำหน่ายเนื้อสุนัข ๑,๖๐๐ ร้าน และฟาร์มเลี้ยงสุนัขเพื่อการบริโภค ๑,๑๕๐ แห่ง ซึ่งทั้งหมดจะต้องทยอยปิดการดำเนินการลงเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่
                   นาย Jeung Seung-Yong ประธานกลุ่มรณรงค์เพื่อสวัสดิภาพสัตว์ Catch Dog ยกย่องการผ่านกฎหมายดังกล่าวว่าเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์หลังจากที่ทางกลุ่มพยายามรณรงค์เรื่องนี้มาอย่างยาวนาน

ที่มาของข่าว : www.impactnottingham.com