ประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
หมวดสังคม
ข่าวประจำวันที่  ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗



               กรุงจาการ์ตา- เมื่อวันพฤหัสบดี (๑ ก.พ. ๖๗) ชาวโรฮิงญามากกว่า ๑๓๐ คน เดินทางมาขึ้นฝั่งในจังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซีย โดยเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติระบุว่านับเป็นการเดินทางมาครั้งล่าสุด ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  
               โดยชาวโรฮิงญา เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มน้อยทางศาสนาที่ถูกข่มเหงในเมียนมา  ต้องเผชิญกับการถูกปฏิเสธและความเกลียดชังจากคนท้องถิ่นในจังหวัดอาเจะห์เมื่อพวกเขาได้อพยพมาขึ้นฝั่ง ทั้งนี้ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เผยข้อมูลว่า นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมามีผู้อพยพเดินทางมาถึงอาเจะห์แล้วเป็นจำนวนเกือบ ๒,๐๐๐ คน
                นายไฟซาล เราะห์มาน  (Faisal Rahman) เจ้าหน้าที่ด้านความคุ้มครองของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติในอินโดนีเซียกล่าวว่า ชาวโรฮิงญาจำนวนกว่า ๑๓๐ คน ได้เดินทางมาถึงฝังตะวันออกของจังหวัดอาเจะห์ เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี
               ชาวโรฮิงญาเหล่านี้ เดินทางออกจากเมียนมาเป็นเวลานานหลายปี โดยปกติพวกเขาถูกมองว่าเป็นผู้บุกรุกชาวต่างชาติจากเอเชียใต้ ซึ่งถูกปฏิเสธการเป็นพลเมืองรวมทั้งถูกละเมิด
               ชาวโรฮิงญามักจะเดินทางโดยเรือที่เก่าทรุดโทรม เพื่อหลบหนีจากความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นหรือออกจากค่ายกักกันในประเทศบังกลาเทศซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน โดยผู้อพยพบางรายเดินทางไปอินโดนีเซียและมาเลเซียระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ทะเลสงบกว่า
               ในอินโดนีเซีย ผู้อพยพเหล่านี้ต้องเผชิญกับความเกลียดชัง
               เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยในเมืองบันดาร์อาเจะห์ ได้บุกโจมตีศูนย์การประชุมซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวโรฮิงญาหลายร้อยคน และเรียกร้องให้ส่งตัวผู้อพยพกลับประเทศ
               สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเรียกเหตุการณ์นี้ว่า “การโจมตีโดยกลุ่มคน” ซึ่งเป็นผลร่วมกันทั้งจากการรณรงค์ผ่านข้อมูลที่ไม่ถูกต้องทางออนไลน์และคำพูดแสดงความเกลียดชัง
              สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติระบุเมื่อเดือนที่แล้วว่า มีชาวโรฮิงญาจำนวนอย่างน้อย ๕๖๙ คน เสียชีวิตหรือสูญหายขณะพยายามหลบหนีออกจากเมียนมาหรือบังกลาเทศในปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ซึ่งนับเป็นยอดผู้เสียชีวิตจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ – สำนักข่าวรอยเตอร์