สหภาพยุโรป
หมวดเศรษฐกิจ
ข่าวประจำวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗
กรุงบรัสเซลส์; ๑ กรกฎาคม (สำนักข่าวรอยเตอร์) ตามข้อมูลด้านอุตสาหกรรมเมื่อวันจันทร์ (๑ กรกฎาคม) แสดงให้เห็นว่า พลังงานไฟฟ้าสามในสี่ของปริมาณไฟฟ้าทั้งหมดในสหภาพยุโรปของปีนี้ ถูกผลิตขึ้นจากแหล่งพลังงานที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้พลังงานแบบผสมผสานกลุ่มนี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในขณะนี้
สมาคมของผู้ประกอบกิจการไฟฟาในสหภาพยุโรประบุว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน แหล่งพลังงานที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผลิตไฟฟ้าให้กับสหภาพยุโรปถึงร้อยละ ๗๔ โดยร้อยละ ๕๐ มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ และอีกร้อยละ ๒๔ มาจากพลังงานนิวเคลียร์
นายคริสเตียน รูบี (Kristian Ruby) เลขาธิการสมาคมของผู้ประกอบกิจการไฟฟาในสหภาพยุโรปกล่าวกับ สำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “การผลิตไฟฟ้าของยุโรปไม่เคยมีลักษณะการปล่อยคาร์บอนระดับต่ำเช่นนี้มาก่อน”
โดยถ่านหินถูกใช้ในการผลิตไฟฟ้าร้อยละ ๙ และก๊าซถูกใช้ผลิตไฟฟ้าร้อยละ ๑๓ ของไฟฟ้าทั้งหมดในสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ต่ำที่สุดสำหรับเชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งสองชนิดในช่วงเวลาเดียวกันของทุกปีจนถึงปัจจุบัน
ปัจจัยหลักที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานแบบผสมผสานในยุโรปคือ พลังงานหมุนเวียนที่ถูกติดตั้งอย่างรวดเร็ว ในปี พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยสหภาพยุโรปสามารถผลิตพลังงานใหม่จากแสงอาทิตย์ได้ถึง ๕๖ กิกะวัตต์ ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดในทุกปีที่ผ่านมา และมีกำลังการผลิตพลังงานใหม่จากลมอีกจำนวน ๑๖ กิกะวัตต์
อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้ไฟฟ้าในยุโรปก็ลดลงเช่นกัน ทำให้แหล่งพลังงานสีเขียวสามารถครอบคลุมส่วนแบ่งของพลังงานแบบผสมผสานทั้งหมดได้มากขึ้น ความต้องการใช้ไฟฟ้าในสหภาพยุโรปลดลงร้อยละ ๕.๘ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. ๒๕๖๔
ราคาพลังงานในยุโรปพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ หลังจากรัสเซียลดการส่งก๊าซไปยังยุโรป วิกฤตพลังงานที่เกิดขึ้นส่งผลให้อุตสาหกรรมและผู้บริโภคต้องลดการใช้พลังงานเพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย ซึ่งบางอุตสาหกรรมยังไม่สามารถฟื้นการผลิตกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดวิกฤตได้ ส่งผลให้การใช้พลังงานดังกล่าวลดลง
พลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้ยุโรปบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศและลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิล อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณว่าระบบโครงข่ายไฟฟ้าเก่าของหลายประเทศกำลังประสบปัญหาในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของพลังงานแบบผสมผสาน
ทั้งนี้เมื่อเดือนก่อนหน้าบริษัทเอเลีย (ELI.BR) ผู้ดำเนินการโครงข่ายกิจการไฟฟ้าของเบลเยียมได้เตือนว่า การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเบลเยียมจะทำให้เกิดช่วงเวลาที่มีพลังงานราคาถูกเกินดุลในฤดูร้อนนี้ ซึ่งจะทำให้การปรับสมดุลของโครงข่ายไฟฟ้าทำได้ยากขึ้น
นายรูบีแนะนำผู้กำหนดนโยบายให้ลงทุนในการยกระดับโครงข่ายไฟฟ้า เพื่อรับมือกับกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น โดยการเพิ่มความจุในการเก็บพลังงาน เพื่อดูดซับพลังงานส่วนเกินราคาถูกเพื่อป้องกันการสูญเสีย
***********************************
ที่มาของข่าว : Source: https://www.reuters.com/sustainability/climate-energy/eus-power-mix-2024-greenest-yet-industry-data-show-2024-06-30/
ผู้แปล : นางมัญชุสา ตั้งเจริญ นักวิเทศสัมพันธ์ชำนาญการ
กลุ่มงานภาษาอังกฤษ
ผู้ทาน : นายกิตติ เสรีประยูร ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานภาษาอังกฤษ
นางสาวศิรสา ชลายนานนท์ นักวิเทศสัมพันธ์เชี่ยวชาญ
ผู้ตรวจ : นางสาวกฤษณี มาศรีจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักภาษาต่างประเทศ