สหราชอาณาจักร
หมวดเศรษฐกิจ
ข่าวประจำวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๗





             ชายคนหนึ่งที่ถูกขโมยเงิน ๑๖๕,๐๐๐ ปอนด์ จากบัญชีธุรกิจ Revolut ของเขาโดยมิจฉาชีพ ได้กล่าวกับบีบีซี พาโนรามา (BBC Panorama) ว่า เขาเชื่อว่ามาตรการด้านความปลอดภัยของบริษัทล้มเหลวในการป้องกันการโจรกรรมครั้งนี้
             เขากล่าวว่ามิจฉาชีพสามารถหลีกเลี่ยงกระบวนการยืนยันตัวตนในการเข้าถึงบัญชีของเขาได้
             จนบัดนี้ Revolut ยังปฏิเสธที่จะคืนเงินจำนวนนี้
             บีบีซี พบว่า Revolut มีรายงานการฉ้อโกงมากกว่าธนาคาร High Street หลักในปีงบประมาณที่ผ่านมา
             บริษัทด้านการเงินอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งยังไม่ได้มีสถานะเป็นธนาคารอย่างเต็มตัว กล่าวว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับการฉ้อโกงอย่างจริงจังและมี “การควบคุมที่เข้มงวด” เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายและกฎระเบียบ
การเพิ่มขึ้นของธนาคารรูปแบบใหม่
             Revolut เป็นหนึ่งในสถาบันการเงินดิจิทัลที่ให้บริการทั้งหมดทางออนไลน์หรือผ่านแอปพลิเคชันโดยไร้สาขา
             บริษัทนี้เติบโตอย่างรวดเร็วและมีลูกค้ากว่า ๔๕ ล้านคนทั่วโลก ซึ่ง ๙ ล้านคนอยู่ในสหราชอาณาจักร บริษัททำรายได้เกือบสามเท่าในปี ๒๕๖๖ คิดเป็น ๑.๘ พันล้านปอนด์ ทั้งนี้บัญชีของ Revolut สามารถเปิดได้อย่างรวดเร็วและมีอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่แข่งขันได้ในแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้ง่าย
             คุณสมบัติเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดึงดูดแจ็ค ผู้ซึ่งดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศและจำเป็นต้องถือเงินสกุลที่หลากหลายให้มาใช้ Revolut
             แจ็ค ผู้ขอให้ไม่เปิดเผยชื่อสกุลของเขา กล่าวกับเราว่าเขารู้สึกมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ Revolut โฆษณา
             เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่แจ็คอยู่ในบริเวณที่ทำงาน เขาได้รับโทรศัพท์จากมิจฉาชีพที่แอบอ้างว่าเป็นพนักงานของ Revolut โดยแจ้งว่าบัญชีของแจ็คอาจถูกเจาะข้อมูลเนื่องจากใช้อินเทอร์เน็ตสาธารณะ
             มิจฉาชีพหลอกลวงจนแจ็คให้ข้อมูลเพียงพอที่จะสามารถเพิ่มบัญชี Revolut ของแจ็คเข้าในอุปกรณ์ของมิจฉาชีพได้ ทำให้พวกเขาสามารถดูธุรกรรมก่อนหน้านี้ รวมถึงการซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ Etsy ในเช้าวันนั้นได้
             ในขณะที่แจ็คยังคงพูดคุยทางโทรศัพท์กับมิจฉาชีพ เขาได้รับข้อความจาก Revolut ขอให้ยืนยันจำนวนเงินตามที่ได้ใช้จ่ายไป ๒๑.๙๘ ปอนด์ โดยให้ป้อนรหัสความปลอดภัย ๖ หลัก
             แจ็คตอบว่า “ใช่ครับ ผมคือแจ็ค” และบอกรหัสให้กับมิจฉาชีพ
             แจ็คไม่รู้เลยว่ามิจฉาชีพได้สร้างบัญชีของตัวเขาที่ชื่อว่า Etsy เช่นกัน และจากการบอกรหัสที่ Revolut ส่งมาให้ แจ็คได้อนุญาตให้ชำระเงินไปยังบัญชีปลอมของพวกมิจฉาชีพ
             จากนั้นมีข้อความอีกสองชุดตามมาเพื่ออนุมัติการชำระเงินจำนวนเล็กน้อยไปยังบัญชีปลอมอีกสองบัญชีที่ชื่อว่า “Revolut fees” และ “Revolut fees care” ซึ่งแจ็คได้อนุมัติเงินดังกล่าวอีก นั่นหมายความว่าแจ็คถูกหลอกให้ตั้งค่าผู้รับเงินใหม่จำนวนสามราย
             ณ จุดนี้ เงินจำนวนหลายพันปอนด์เริ่มถูกโอนออกไปจากบัญชีอย่างรวดเร็ว
   
 ที่มาของข่าว : https://www.bbc.com/news/articles/cj6epzxdd77o (15.10.2024)