กลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย - แอฟริกาใต้ เข้าเยี่ยมคารวะเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ประจำประเทศไทย เพื่อแนะนำคณะกรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพฯ และหารือแนวทางการดำเนินกิจกรรมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
วันพุธที่ 14 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.30 นาฬิกา ณ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ นายพรเพิ่ม ทองศรี สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย - แอฟริกาใต้ นำคณะกรรมการบริหารฯ เข้าเยี่ยมคารวะ นายดาร์คีย์ อีเฟรอิม แอฟริกา (H.E. Mr. Darkey Ephraim Africa) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ประจำประเทศไทย เพื่อแนะนำคณะกรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพฯ ไทย - แอฟริกาใต้ ชุดปัจจุบัน และหารือแนวทางการดำเนินกิจกรรมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยมีคณะกรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพฯ ไทย - แอฟริกาใต้ ประกอบด้วย นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะรองประธาน และนายสยาม หัตถสงเคราะห์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะกรรมการ พร้อมด้วย น.ส.เพ็ญมาศ อติศัพท์ และนายวรวิทย์ มหาชัยยนต์วงศ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ เข้าร่วมเยี่ยมคารวะฯ ในครั้งนี้
เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับแอฟริกาใต้ที่มีมาเป็นเวลายาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ แอฟริกาใต้นำเข้าข้าวจากประเทศไทยเป็นอันดับต้น และหวังว่าจะมีโอกาสในการส่งออกอัญมณี อาทิ เพชรและแพลททินัม ตลอดจนผลไม้ท้องถิ่น อาทิ ลูกแพร์ เบอร์รี่ แอปเปิ้ล และอินทผาลัม มายังประเทศไทยมากขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม การเดินทางระหว่างแอฟริกาใต้และไทยยังถือว่าใช้เวลานาน เพราะต้องเปลี่ยนเครื่องบิน ประมาณ 12 - 18 ชั่วโมง จึงคาดหวังว่าในอนาคตการบินไทยจะพิจารณาเที่ยวบินตรงระหว่างไทยและแอฟริกาใต้ เพื่อลดระยะเวลาการเดินทางระหว่างกัน
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฯ ยังกล่าวถึงบันทึกความเข้าใจเรื่อง การป้องกันการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ ที่รอการลงนาม เพื่อสรุปแผนการปฏิบัติการร่วมกันต่อไป หวังว่าการพูดคุยหารือในระดับทวิภาคีจะทำให้กระบวนการดำเนินการรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความร่วมมือในระดับทวิภาคีในหลากหลายประเด็นที่แอฟริกาใต้ต้องการจากประเทศไทย คือ การจัดการทางสาธารณสุข การจัดการพลังงาน การดูแลผู้อพยพ การลงทุนของบริษัทยานยนต์ เคมีภัณฑ์ การผลิตสินค้าแฟชั่นและสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน การท่องเที่ยว และการศึกษา
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย - แอฟริกาใต้ ได้หารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลุ่มมิตรภาพฯ ในรัฐสภาแอฟริกาใต้ เนื่องจากทราบว่า รัฐสภาแอฟริกาใต้ยังไม่มีการจัดตั้งกลุ่มมิตรภาพฯ แอฟริกาใต้ - ไทย และที่ผ่านมา ยังไม่มีการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับทวิภาคีระหว่างกัน จึงได้หารือแนวทางในการแลกเปลี่ยนการเดินทางเยือนฯ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เครดิตข่าว: กลุ่มงานความสัมพันธ์รัฐสภาทวิภาค สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับแอฟริกาใต้ที่มีมาเป็นเวลายาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ แอฟริกาใต้นำเข้าข้าวจากประเทศไทยเป็นอันดับต้น และหวังว่าจะมีโอกาสในการส่งออกอัญมณี อาทิ เพชรและแพลททินัม ตลอดจนผลไม้ท้องถิ่น อาทิ ลูกแพร์ เบอร์รี่ แอปเปิ้ล และอินทผาลัม มายังประเทศไทยมากขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม การเดินทางระหว่างแอฟริกาใต้และไทยยังถือว่าใช้เวลานาน เพราะต้องเปลี่ยนเครื่องบิน ประมาณ 12 - 18 ชั่วโมง จึงคาดหวังว่าในอนาคตการบินไทยจะพิจารณาเที่ยวบินตรงระหว่างไทยและแอฟริกาใต้ เพื่อลดระยะเวลาการเดินทางระหว่างกัน
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฯ ยังกล่าวถึงบันทึกความเข้าใจเรื่อง การป้องกันการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ ที่รอการลงนาม เพื่อสรุปแผนการปฏิบัติการร่วมกันต่อไป หวังว่าการพูดคุยหารือในระดับทวิภาคีจะทำให้กระบวนการดำเนินการรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความร่วมมือในระดับทวิภาคีในหลากหลายประเด็นที่แอฟริกาใต้ต้องการจากประเทศไทย คือ การจัดการทางสาธารณสุข การจัดการพลังงาน การดูแลผู้อพยพ การลงทุนของบริษัทยานยนต์ เคมีภัณฑ์ การผลิตสินค้าแฟชั่นและสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน การท่องเที่ยว และการศึกษา
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย - แอฟริกาใต้ ได้หารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลุ่มมิตรภาพฯ ในรัฐสภาแอฟริกาใต้ เนื่องจากทราบว่า รัฐสภาแอฟริกาใต้ยังไม่มีการจัดตั้งกลุ่มมิตรภาพฯ แอฟริกาใต้ - ไทย และที่ผ่านมา ยังไม่มีการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับทวิภาคีระหว่างกัน จึงได้หารือแนวทางในการแลกเปลี่ยนการเดินทางเยือนฯ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เครดิตข่าว: กลุ่มงานความสัมพันธ์รัฐสภาทวิภาค สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
