• สำหรับผู้พิการ
  • รูปแบบสี ก ก ก
  • ขนาดตัวอักษร -ก ก +ก
  • Language
    • ภาษาไทย
    • English
    • Français
    Facebook youtube

เว็บไซต์อื่นๆ
  • รัฐสภา
  • สภาผู้แทนราษฎร
  • วุฒิสภา
  • สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
  • สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา

logo
  • หน้าหลัก
  • แนะนำองค์กร
  • ข้อมูลประชาคมอาเซียน
    • ประวัติอาเซียน
    • วิสัยทัศน์อาเซียน
    • กฎบัตรอาเซียน
    • สำนักงานเลขาธิการอาเซียน
    • ประธานอาเซียน
    • เลขาธิการอาเซียน
  • รัฐสภาไทยกับอาเซียน
    • การเยือนประเทศสมาชิก
    • การรับรองบุคคลสำคัญ
    • สมัชชารัฐสภาอาเซียน AIPA
    • กลุ่มมิตรภาพ
    • พลเมืองอาเซียน
    • อินไซต์อาเซียนและรอบโลก
      • อินไซต์อาเซียน
      • รอบโลก
  • การวิจัยและพัฒนากฎหมาย
    • งานวิจัยและพัฒนากฏหมาย
    • งานวิชาการ
      • ประชาคมการเมืองและความมั่นคง
      • ประชาคมเศรษฐกิจ
      • ประชาคมสังคมและวัฒนธรรม
    • เอกสารวิชาการอื่นๆ
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
เว็บไซต์อื่นๆ
  • รัฐสภา
  • สภาผู้แทนราษฎร
  • วุฒิสภา
  • สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
  • สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
รายงานการศึกษาดูงาน
ประเทศสมาชิกอาเซียนของรัฐสภา
Loading...
ลำดับที่ 16
คณะกรรมาธิการ/บุคคลสำคัญของฝ่ายนิติบัญญัติ คณะผู้แทนกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย–ลาว
หมวดหมู่ - ประเทศสมาชิกอาเซียน
ประเทศ - ลาว
เสาหลักอาเซียน - เศรษฐกิจ
- สังคมและวัฒนธรรม
- การเมืองและความมั่นคง
วันเดือนปีที่ศึกษาดูงาน 18 มกราคม 2559 - 22 มกราคม 2559
สมัยของประธาน พลเอก ธีรเดช มีเพียร ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย – ลาว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ประเด็นศึกษาดูงาน

๑. ความร่วมมือระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
๒. การพัฒนาตามแนวคิด “Land Locked to Land Linked” ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 
๓. ยุทธศาสตร์การพัฒนาของแขวงจำปาสัก

สาระสังเขป

     คณะผู้แทนกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย–ลาว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้เดินทางไปประชุมทวิภาคี ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามคำเชิญของ              นายอุ่นแก้ว วุทิลาด ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาลาว–ไทย สภาแห่งชาติลาว เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับ สปป.ลาว ในระดับสถาบันนิติบัญญัติ โดยในการเยือนครั้งนี้ คณะผู้แทนกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย–ลาว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้อธิบายถึงสถานการณ์และพัฒนาการทางการเมืองของประเทศไทยที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปในอนาคตให้ผู้แทนฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารของ สปป.ลาวได้รับทราบ รวมทั้งได้ศึกษาแนวทางการพัฒนาและเยี่ยมชมสถานที่สำคัญของ สปป.ลาว สาระสำคัญดังนี้

  1. ไทยกับ สปป.ลาว มีความร่วมมือระหว่างกันในหลายด้าน ทั้งมิติของการพัฒนาและการแก้ไขปัญหาร่วมกัน สำหรับโครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตร    ห้วยซ้อน–ห้วยซั้ว (หลัก ๒๒) ณ กรุงเวียงจันทน์ ที่คณะผู้แทนกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย–ลาว สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้มีโอกาสเยี่ยมชม เป็นโครงการที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นตามคำกราบบังคมทูลขอพระราชทาน ของนายไกสอน พมวิหาน ประธานประเทศแห่ง สปป.ลาว ทั้งนี้ เนื่องจากนายไกสอนได้มีโอกาสเยี่ยมชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ จังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์การศึกษาการพัฒนาภูพาน จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕ จึงเกิดความประทับใจและประสงค์ให้มีโครงการด้านการพัฒนาในลักษณะเดียวกันใน สปป.ลาว นอกจากนี้ ไทยและ สปป.ลาวยังมีความร่วมมือกันในด้านการศึกษา โดยเฉพาะโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนระหว่างสองประเทศ ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และมีการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ร่วมกัน โดยไทยได้ช่วยเหลือสตรีลาวอายุต่ำกว่า ๒๐ ปี ที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีในไทยให้ปลอดภัยจากขบวนการค้ามนุษย์ได้ ในขณะที่ฝ่าย สปป.ลาวได้ตรากฎหมายด้านการค้ามนุษย์แล้ว และพร้อมให้ความร่วมมือกับฝ่ายไทยในการขจัดปัญหา   ดังกล่าวให้หมดไป 
  2. สปป.ลาวเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะเล (Land Locked) จึงได้กำหนดแนวทางการพัฒนาประเทศให้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการเชื่อมโยงประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนเข้าด้วยกัน และเชื่อมโยงจีนและอินเดียเข้าสู่ภูมิภาคอาเซียน และลุ่มน้ำโขง (Land Linked) ตามแนวคิด “Land Locked to Land Linked” ในการนี้ รัฐบาล สปป.ลาวได้อนุมัติให้สร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงระหว่างจีน สปป.ลาว ไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย รวมทั้งเส้นทางเชื่อมต่อไปยังเวียดนามด้วย นอกจากนี้ สปป.ลาว ยังจะยกระดับการสร้างถนนให้สามารถรองรับน้ำหนักการขนส่งต่าง ๆ   ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้สอดรับกับเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งด้านการผลิต การบริการ และการลงทุน
  3. แขวงจำปาสักตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ สปป.ลาว โดยอยู่ห่างจากกรุงเวียงจันทน์ ๖๑๐ กิโลเมตร ทิศเหนือติดกับแขวงสาละวัน ทิศใต้ติดกับกัมพูชา ทิศตะวันออกติดกับแขวงเซกองและแขวงอัตตะปือ ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดอุบลราชธานีของไทย โดยเป็นแขวงเดียวทางตอนใต้ของ สปป.ลาว ที่มีพื้นที่อยู่บนสองฝั่งแม่น้ำโขง แขวงจำปาสักมีทรัพยากรป่าไม้และทรัพยากรน้ำที่อุดมสมบูรณ์ และยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ อาทิ ปราสาทวัดพู ณ เมืองปากเซ ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับการรับรองและขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (The United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization: UNESCO) เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๔๕ ให้เป็นเมืองมรดกโลกแห่งที่สองของ สปป.ลาว ต่อจากเมืองหลวงพระบาง   

ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ แขวงจำปาสักมียุทธศาสตร์การพัฒนา ๔ ด้าน เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ ดังนี้

  • ด้านกสิกรรม ประกอบด้วยสาขาหลัก คือ การปลูกข้าวและการปลูกพืช โดยมีสินค้าหลัก คือ ข้าว กาแฟ เมล็ดผัก ผลไม้ และพืชไร่ต่าง ๆ
  • ด้านการท่องเที่ยว ประกอบด้วยการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม
  • ด้านการค้า การลงทุน และการบริการ แขวงจำปาสักมีความร่วมมือเป็นอย่างดีกับจังหวัดอุบลราชธานีในการส่งเสริมการค้า การลงทุน และการบริการระหว่างกัน เช่น ความร่วมมือบริเวณชายแดน การค้าสินค้าเกษตร การจัดแสดงสินค้า เป็นต้น โดยมีนักลงทุนชาวไทยให้ความสนใจมาลงทุนในแขวงจำปาสักเป็นจำนวนมาก
  • ด้านพลังงาน มีการพัฒนาพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กและขนาดใหญ่

ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการศึกษาดูงาน

             การเดินทางไปประชุมทวิภาคี ณ สปป.ลาว ในครั้งนี้ คณะผู้แทนกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย–ลาว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้มีโอกาสสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ไทย โดยการชี้แจงสถานการณ์การเมืองไทยและความก้าวหน้าของการยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่ การจัดการเลือกตั้งทั่วไป นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสอันดีที่ผู้แทนของทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างกันในหลายด้าน ซึ่งคณะผู้แทนฝ่ายไทยสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในภารกิจที่เกี่ยวข้องกับไทยในยุคเปลี่ยนผ่านทางการเมืองได้ เช่น การรักษาวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของชาวลาวท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ เป็นต้น

 

 

คำค้น ลาว, กลุ่มมิตรภาพ, การพัฒนา, ยุทธศาสตร์

เสาหลัก การเมืองและความมั่นคง, เศรษฐกิจ, สังคมและวัฒนธรรม

เอกสารแนบ 1. คณะผู้แทนกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย–ลาว



ASEAN Thailand 2019
สมัชชารัฐสภาอาเซียน
The ASEAN Secretariat
Inter-Parliamentary Union
กฎหมายในกลุ่มอาเซียน
ASEAN Thailand 2019
สมัชชารัฐสภาอาเซียน
The ASEAN Secretariat
Inter-Parliamentary Union
กฎหมายในกลุ่มอาเซียน

กลุ่มงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติหน้าที่สำนักงานศูนย์ประชาคมอาเซียนของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

โทร 022425900 ต่อ 7462

facebook   youtube

จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ 1,416,504
(ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565)

Tawdis WCAG 2.0 (Level AA)

คลิกดูสถิติการเข้าชมเว็บไซต์สภาผู้แทนฯ
sitemap แผนผังเว็บไซต์

หน้าหลัก

แนะนำองค์กร

ข้อมูลประชาคมอาเซียน

● ประวัติอาเซียน

● วิสัยทัศน์อาเซียน

● กฎบัตรอาเซียน

● สำนักงานเลขาธิการอาเซียน

● ประธานอาเซียน

● เลขาธิการอาเซียน

รัฐสภาไทยกับอาเซียน

● การเยือนประเทศสมาชิก

● การรับรองบุคคลสำคัญ

● สมัชชารัฐสภาอาเซียน AIPA

● กลุ่มมิตรภาพ

● พลเมืองอาเซียน

● อินไซต์อาเซียนและรอบโลก

○ อินไซต์อาเซียน
○ รอบโลก

การวิจัยและพัฒนากฎหมาย

● งานวิจัยและพัฒนากฏหมาย

● งานวิชาการ

○ ประชาคมการเมืองและความมั่นคง
○ ประชาคมเศรษฐกิจ
○ ประชาคมสังคมและวัฒนธรรม

● เอกสารวิชาการอื่นๆ

FAQ

ติดต่อเรา

ภาพข่าวกิจกรรม

ข่าวสารอาเซียน

งานวิจัยและพัฒนากฎหมาย

กฎหมายเปรียบเทียบ

● รัฐธรรมนูญของประเทศสมาชิกอาเซียน

● การเสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาคในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

● ความร่วมมือในภูมิภาคในเรื่องการต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์

● ความร่วมมือทางอาญาในภูมิภาคอาเซียนในเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน

● พันธกรณีตาม ASEAN Economic Economy Blueprint 2025

● การศึกษาเปรียบเทียบกลไกระงับข้อพิพาทการลงทุนหรือกฎหมายว่าด้วยอนุญาโตตุลาการ

● การศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว

● กฎหมายว่าด้วยการแข่งขันที่เป็นธรรมทางการค้า

● ทรัพย์สินทางปัญญา

● การยอมรับและการบังคับคดีตามคาพิพากษาของศาลต่างประเทศ

● การอำนวยความสะดวกทางการค้า

● พาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ของอาเซียน

● มาตรฐานแรงงานในอาเซียน

● กฎหมายตามพันธกรณีความร่วมมือของประชาคมอาเซียนด้านประชาคมสังคมและวัฒนธรรม การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน

● การยอมรับและการบังคับคดีให้เป็นไปตามคาพิพากษาของศาลต่างประเทศในคดีแพ่งหรือพาณิชย์

● การรับรองความถูกต้องแท้จริงของเอกสารราชการ