นายศักดิ์ชัย ธนบุญชัย ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-เวียดนามและคณะเดินทางไปประชุมทวิภาคี ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกรัฐสภาไทยกับรัฐสภาเวียดนาม โดยได้เข้าประชุมทวิภาคีกับ ๑) พลเอก Do Ba Ty รองประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม ๒) นาย Pham Donh Toan ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาเวียดนาม–ไทย ๓) พลตรี Le Dinh Nhuong รองประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมและความมั่นคงสภาแห่งชาติเวียดนาม และ ๔) นาย Vu Tien สมาชิกสภาแห่งชาติและประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม
๑. การประชุมทวิภาคีกับนาย Pham Donh Toan ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาเวียดนาม–ไทย สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
๑.๑) ความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน พบว่านักลงทุนชาวไทยสนใจมาลงทุนทำธุรกิจในเวียดนามเป็นจำนวนมาก เช่น บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) และบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เป็นต้น โดยมีการจัดตั้งสมาคมเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกันในภาคเอกชนขึ้น โดยฝ่ายไทยจัดตั้งสมาคมมิตรภาพไทย–เวียดนามและฝ่ายเวียดนามได้จัดตั้งสมาคมมิตรภาพเวียดนาม–ไทยขึ้นเช่นกัน
๑.๒) ความสัมพันธ์ในกรอบพหุภาคี นอกเหนือไปจากความสัมพันธ์ด้านรัฐสภาที่สมาชิกรัฐสภาของทั้งสองประเทศมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกัน ไทยและเวียดนามต่างเป็นสมาชิกประชาคมอาเซียนและในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ครบรอบการก่อตั้งประชาคมอาเซียน ๕๐ ปี จึงขอให้ทั้งสองประเทศส่งเสริมความร่วมมือในอาเซียนเพื่อให้ภูมิภาคอาเซียนมีความเข้มแข็งและมีเสถียรภาพ ทั้งนี้ ความร่วมมือในกรอบอื่น ๆ ที่มีระหว่างไทยและเวียดนาม ได้แก่ สหภาพรัฐสภา (Inter-Parliamentary Union: IPU) สมัชชารัฐสภาอาเซียน (ASEAN Inter-Parliamentary Assembly: AIPA) เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการแก้ไขปัญหาลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งนายกรัฐมนตรีของไทยเน้นย้ำให้แก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
๒. การประชุมทวิภาคีกับพลตรี Le Dinh Nhuong รองประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมและความมั่นคง สภาแห่งชาติเวียดนาม
๒.๑) บทบาทที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย–เวียดนามกล่าวว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้รับผิดชอบประเด็นเรื่องความมั่นคงของไทย โดยมีหน่วยปฏิบัติคือกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วยกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ สำหรับเวียดนาม รองประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมและความมั่นคง สภาแห่งชาติเวียดนาม กล่าวว่า บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม พ.ศ. ๒๕๕๖ มาตรา ๗๖ และมาตรา ๗๗ กำหนดไว้ว่า คณะกรรมาธิการกลาโหมและความมั่นคง ประกอบด้วย ประธาน รองประธาน ๓ คน และกรรมาธิการ ๕ คน ตำแหน่งประธานและรองประธานได้รับการเลือกตั้งโดยคณะกรรมการของสภาแห่งชาติเวียดนาม ประธานคณะกรรมาธิการมีหน้าที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกฎหมายด้านการป้องกันประเทศ พิจารณากฎหมาย และตรวจสอบการปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานป้องกันประเทศ รวมทั้งมีอำนาจเรียกหน่วยงานของรัฐมาเพื่อชี้แจงต่อรัฐสภาในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ
๒.๒) ความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงระหว่างไทยและเวียดนาม พลโท พิศณุ พุทธวงศ์ กรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย–เวียดนาม กล่าวว่าไทยและเวียดนามมีการตั้งคณะทำงานร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง (Joint Working Group On Political and Security Cooperation: JWG on PSC) โดยมีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธานฝ่ายไทย ปัจจุบันทั้งสองประเทศตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อรับมือกับสิ่งท้าทายใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการลาดตระเวนร่วมระหว่างกองทัพเรือไทย–กองทัพเรือเวียดนาม และมีการประชุมคณะทำงานร่วมไทย-เวียดนาม ว่าด้วยการจัดระเบียบทางทะเล
อย่างสม่ำเสมอ
๓. การประชุมทวิภาคีกับนาย Vu Tien สมาชิกสภาแห่งชาติและประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม
๓.๑) ความเชื่อมโยงทางการค้าและการอำนวยความสะดวกให้แก่นักธุรกิจ นาย Vu Tien สมาชิกสภาแห่งชาติและประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม กล่าวถึงสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามว่า ก่อตั้งขึ้นตามดำริของนายกรัฐมนตรีเวียดนามเพื่อเป็นตัวแทนให้กับนักธุรกิจเวียดนาม มีอำนาจและหน้าที่ในการเสนอข้อคิดเห็นต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อนักธุรกิจของเวียดนาม โดยนายกรัฐมนตรีมีกำหนดพบปะกับนักธุรกิจปีละ ๒ ครั้ง โดยหากฝ่ายไทยไม่ได้รับความสะดวกในการดำเนินธุรกิจในเวียดนามสามารถแจ้งปัญหา พร้อมทั้งข้อเสนอผ่านสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม เพื่อนำกราบเรียนนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ ทั้งนี้ นายศักดิ์ชัย ธนบุญชัย ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-เวียดนาม ขอให้สภาหอการค้า ฯ ช่วยดูแลนักธุรกิจชาวไทยที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม
๓.๒) การส่งเสริมการค้าระหว่างทั้งสองประเทศตามเขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area: AFTA) นายสุพันธุ์ มงคลสุธี กรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-เวียดนาม กล่าวเพิ่มเติมว่า นักลงทุนไทยให้ความสำคัญกับการลงทุนในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเวียดนาม และในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ประเทศสมาชิกอาเซียนใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์ ตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียนซึ่งเป็นการส่งเสริมให้การค้าระหว่างไทยและเวียดนามเพิ่มมากยิ่งขึ้น
๔. การประชุมทวิภาคีกับ พลเอก Do Ba Ty รองประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม
๔.๑) ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทยและเวียดนามมีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันมากว่า ๔๐ ปี มีการส่งเสริมความสัมพันธ์หลายด้านทั้งเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และความมั่นคง เวียดนามขอให้กลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-เวียดนาม ช่วยผลักดันเรื่องการค้าและการลงทุน รวมทั้งเรื่องกลาโหมด้วย โดยฝ่ายเวียดนามได้ฝากความระลึกถึงไปยัง พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นด้วยซึ่งเคยเดินทางเยือนเวียดนามเพื่อหารือเรื่องความมั่นคง
๔.๒) ความสัมพันธ์ด้านแรงงาน ไทยและเวียดนามช่วยเหลือกันในเรื่องแรงงานมาเป็นเวลานาน รองประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม ขอให้ทางการไทยให้ความช่วยเหลือชาวเวียดเกียว (เหวียต เกี่ยว คำเรียกชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่นอกประเทศ) โดยการขึ้นทะเบียนบุคคลเหล่านี้ให้เป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ ฝ่ายเวียดนามได้ขอให้ไทยใช้วิธีการที่เหมาะสมกับชาวประมงผิดกฎหมายที่รุกล้ำน่านน้ำของไทย ทั้งนี้ เนื่องจากความไม่ทราบอาณาเขตน่านน้ำที่แน่นอน
ประโยชน์ที่ได้จากการประชุมทวิภาคี
๑. เป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีระหว่างไทยและเวียดนาม ทั้งในด้านสถาบันนิติบัญญัติ ความมั่นคง การค้า และการลงทุน ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
๒. คณะผู้แทนกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-เวียดนาม สามารถนำความรู้และประสบการณ์มาปรับใช้ในสถาบันนิติบัญญัติของไทยได้
คำค้น กลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-เวียดนาม ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ความมั่นคงทางทหาร
เสาหลัก การเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมและวัฒนธรรม
|