ท่าทีจุดยืนและการดำเนินงานของไทยในเรื่องข้อสงวนการเปิดเสรีภายใต้ความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน (ASEAN Comprehensive Investment Agreement - ACIA) |
กระทู้ถามที่ 141/2552
| วุฒิสภา |
วันที่เสนอ |
10 พฤศจิกายน 2552 |
สมัยคณะรัฐมนตรี |
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ |
ชื่อผู้ตั้งกระทู้ถาม |
นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดพิษณุโลก |
ชื่อผู้ถูกตั้งกระทู้ถาม |
นายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) |
ชื่อผู้ตอบกระทู้ถาม |
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) |
ประเภทกระทู้ถาม |
กระทู้ถามที่ตอบในที่ประชุม |
สถานภาพกระทู้ถาม |
กระทู้ถามที่ตอบในราชกิจจานุเบกษา
ในที่ประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 5 (สมัยสามัญทั่วไป)
วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554
|
สรุปสาระสำคัญของกระทู้ถาม |
ตามที่อาเซียนได้จัดทำข้อตกลงด้านการลงทุนอาเซียน (ASEAN Comprehensive Investment Agreement - ACIA) ประกอบด้วย การเปิดเสรีการลงทุน การให้ความคุ้มครองการลงทุน การส่งเสริมการลงทุนและการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน ซึ่งครอบคลุมในธุรกิจ 5 สาขาหลัก ได้แก่ การเกษตร การประมง ป่าไม้ เหมืองแร่และอุตสาหกรรมการผลิต เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของการลงทุนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนให้เข้ามาลงทุนได้อย่างเสรี และอนุญาตให้ประเทศสมาชิกสามารถกำหนดเงื่อนไขในการเข้าไปลงทุนโดยตั้งข้อสงวนในกิจการนั้นได้ ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ตั้งข้อสงวนในการเปิดเสรีการลงทุนสำหรับสาขาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การทำไม้จากป่าปลูกและการปรับปรุงพันธุ์พืช
ต่อมา เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2552 ที่ประชุมของคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Board of Investment - BOI) ให้ยกเลิกข้อสงวนทั้ง 3 สาขาดังกล่าว ดังนั้น จึงทำให้เกิดการคัดค้านจากหน่วยงานของภาครัฐ ภาคประชาชนและกลุ่มเกษตรกรอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมีผลกระทบอย่างมากต่อภาคเกษตรกรรมและต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ตั้งกระทู้ถามขอทราบว่า
1. ประเทศไทยมีจุดยืนในเรื่องข้อสงวนการเปิดเสรีการลงทุนใน 3 สาขาดังกล่าวอย่างไร
2. ในการพิจารณากำหนดนโยบายของคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและของรัฐบาลได้มีการศึกษาวิจัยผลดี - ผลเสียของการเปิดเสรี 3 สาขาดังกล่าวหรือไม่
3. รัฐบาลจะมีการดำเนินงานในเรื่องการพิจารณาข้อสงวนในการเปิดเสรี 3 สาขา ภายใต้ความตกลง ACIA ให้เป็นไปตาม มาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 หรือไม่ อย่างไร
|
สรุปสาระสำคัญของคำตอบกระทู้ถาม |
คำตอบ ในข้อตกลงด้านเศรษฐกิจอาเซียน ได้มีข้อตกลงหลัก 3 ฉบับ ประกอบด้วย ความตกลงการค้าสินค้า การค้าบริการและการลงทุน โดยในด้านการลงทุนนั้น อาเซียนได้มีความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน (ASEAN Comprehensive Investment Agreement - ACIA) ประกอบด้วย 4 หลักใหญ่ คือ การเปิดเสรีการลงทุน การให้ความคุ้มครองการลงทุน การส่งเสริมการลงทุน และการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน ครอบคลุมในธุรกิจ 5 สาขาหลัก ได้แก่ การเกษตร การประมง ป่าไม้ เหมืองแร่และอุตสาหกรรมการผลิต โดยจะให้สิทธิพิเศษกับนักลงทุนในกลุ่มอาเซียนและนักลงทุนที่ลงทุนในอาเซียน (Foreign - owned ASEAN - based investor)
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2552 เพื่อพิจารณาทบทวนเรื่องการที่ประเทศไทยจะยังคงบัญชีข้อสงวนในการเปิดเสรีการลงทุน ใน 3 สาขา คือ 1) การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 2) การทำไม้จากป่าปลูก และ 3) การปรับปรุงพันธุ์พืช อยู่ต่อไปหรือไม่ โดยพิจารณาจากความคิดเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน ภาคประชาชนและกลุ่มเกษตรกรที่ได้สำรวจมาก่อนหน้านั้น ซึ่งคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ได้มีมติให้ยกเลิกมติเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2552 และมีมติให้คงบัญชีข้อสงวนทั้ง 3 สาขาดังกล่าวไว้ตามเดิม
สำหรับการพิจารณากำหนดนโยบายของคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและของรัฐบาลได้มีการศึกษาวิจัยผลดี - ผลเสีย ของการเปิดเสรีข้อสงวนทั้ง 3 สาขาดังกล่าว ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ โดยมีสำนักงานส่งเสริมการลงทุนซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก ได้ดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีและมติของคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ในการเปิดรับฟังความคิดเห็น ทำการศึกษาวิจัยในผลดี - ผลเสีย ภายใต้เงื่อนไขของมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ตลอดจนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ และมีมติในการที่จะผ่อนปรนมาตรการในกิจการย่อยบางรายการภายใต้ 3 สาขาดังกล่าว ก็จะถือว่าเป็นการปฏิบัติตามพันธสัญญาภายใต้ความตกลงเขตการลงทุนอาเซียน (ASEAN Investment Agreement - AIA) เดิม และความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน (ASEAN Comprehensive Investment Agreement - ACIA) ใหม่ ซึ่งในความตกลงด้านการลงทุนอาเซียนได้กำหนดไว้ว่า “ความผูกพันใดที่มีอยู่เดิมให้ผูกพันมายังความตกลงด้านการลงทุนอาเซียนด้วย เว้นแต่ประเทศภาคีสมาชิกเห็นเป็นอย่างอื่น” ซึ่งหมายความถึงข้อตกลงใดที่ประเทศสมาชิกอาเซียนได้ตกลงให้ผูกพัน รวมถึงในด้านการลงทุนของประเทศสมาชิกอาเซียนนั้นด้วย เว้นแต่ภาคีสมาชิกจะเห็นเป็นอย่างอื่น และนอกจากจะเป็นการผ่อนปรนเพื่อให้มีการเปิดเสรีมากขึ้นแล้ว การที่ให้มีการลงทุนในกลุ่มสมาชิกอาเซียนนั้นยังจะเกิดประโยชน์ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ประเทศไทยยังไม่มีอีกด้วย
|
เอกสารต้นเรื่อง |
1. ?????????????
|