• สำหรับผู้พิการ
  • รูปแบบสี ก ก ก
  • ขนาดตัวอักษร -ก ก +ก
  • Language
    • ภาษาไทย
    • English
    • Français
    Facebook youtube

เว็บไซต์อื่นๆ
  • รัฐสภา
  • สภาผู้แทนราษฎร
  • วุฒิสภา
  • สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
  • สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา

logo
  • หน้าหลัก
  • แนะนำองค์กร
  • ข้อมูลประชาคมอาเซียน
    • ประวัติอาเซียน
    • วิสัยทัศน์อาเซียน
    • กฎบัตรอาเซียน
    • สำนักงานเลขาธิการอาเซียน
    • ประธานอาเซียน
    • เลขาธิการอาเซียน
  • รัฐสภาไทยกับอาเซียน
    • การเยือนประเทศสมาชิก
    • การรับรองบุคคลสำคัญ
    • สมัชชารัฐสภาอาเซียน AIPA
    • กลุ่มมิตรภาพ
    • พลเมืองอาเซียน
    • อินไซต์อาเซียนและรอบโลก
      • อินไซต์อาเซียน
      • รอบโลก
  • การวิจัยและพัฒนากฎหมาย
    • งานวิจัยและพัฒนากฏหมาย
    • งานวิชาการ
      • ประชาคมการเมืองและความมั่นคง
      • ประชาคมเศรษฐกิจ
      • ประชาคมสังคมและวัฒนธรรม
    • เอกสารวิชาการอื่นๆ
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
เว็บไซต์อื่นๆ
  • รัฐสภา
  • สภาผู้แทนราษฎร
  • วุฒิสภา
  • สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
  • สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
กระทู้ถามเกี่ยวกับ
ตราสารอาเซียนของรัฐสภา
Loading...

มาตรการเตรียมการรองรับการลดภาษีสินค้าตามข้อผูกพันเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA)

กระทู้ถามที่ 107/2552 วุฒิสภา
วันที่เสนอ 22 สิงหาคม 2561
สมัยคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ชื่อผู้ตั้งกระทู้ถาม นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ
ชื่อผู้ถูกตั้งกระทู้ถาม นายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)
ชื่อผู้ตอบกระทู้ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายธีระ วงศ์สมุทร) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์)
ประเภทกระทู้ถาม กระทู้ถามที่ตอบในที่ประชุม
สถานภาพกระทู้ถาม กระทู้ถามที่ตอบในราชกิจจานุเบกษา

ในที่ประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 4/2553 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ)


วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม 2553
 

สรุปสาระสำคัญของกระทู้ถาม

          ตามที่อาเซียนจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area: AFTA) เมื่อปี 2535 เพื่อขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของอาเซียน พันธกรณีของไทยภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) คือต้องลดอัตราภาษีศุลการกรสินค้าทุกรายการทั้งเกษตรและอุตสาหกรรมเป็นร้อยละ 0 ภายในวันที่ 1 มกราคม 2553 (ยกเว้นสินค้าอ่อนไหว ได้แก่ ไม้ตัดดอก มันฝรั่ง กาแฟ และเนื้อมะพร้าวแห้ง ที่จะลดอัตราภาษีศุลกากรร้อยละ 5) ผู้ตั้งกระทู้ถามขอทราบว่า
          1. ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ผู้ประกอบการไทยมีความรู้ ความเข้าใจ เข้าถึงรายละเอียดของข้อตกลง และได้ใช้สิทธิประโยชน์ในกรอบข้อตกลง AFTA เพียงใด
          2. ตามที่รัฐบาลกำหนดสินค้าอ่อนไหวของประเทศไทย คือ กาแฟ มันฝรั่ง มะพร้าวแห้ง และไม้ตัดดอก นั้น 
มีรายการสินค้าอ่อนไหวอีกหรือไม่
          3. สินค้าเกษตร เช่น น้ำมันปาล์มจากมาเลเซีย และข้าวจากกัมพูชา พม่า ลาว มีผลกระทบอย่างไร และรัฐบาลมีมาตรการรองรับการลดภาษีสินค้าตามข้อผูกพัน AFTA อย่างไร
          4. การลดภาษีสินค้าเกษตรตามข้อผูกพันเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) รัฐบาลมีมาตรการแก้ไขหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ เช่น เกษตรกร อย่างไร
          5. ในกรณีที่มีการลักลอบนำสินค้าเกษตร เช่น ข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาสวมสิทธิโครงการของรัฐบาล เช่น รับจำนำข้าว หรือประกันราคาข้าว รัฐบาลมีมาตรการป้องกันและแก้ไขอย่างไร
          6. รัฐบาลมีนโยบายที่จะส่งเสริมการนำสินค้าเกษตรจากเพื่อนบ้านภายใต้กรอบ AFTA เพื่อทำให้ต้นทุนการบริโภคสินค้าภายในประเทศถูกลง หรือจะมีนโยบายกักกันสินค้าเกษตรจากเพื่อนบ้านภายใต้มาตรการทางการค้าที่มิใช่ภาษีหรือไม่ อย่างไร
          7. อุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี รัฐบาลมีนโยบายนำมาใช้หรือไม่ และถ้าหากประเทศเพื่อนบ้านนำอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษีมาใช้กับสินค้าของประเทศไทย รัฐบาลจะมีวิธีการ มาตรการแก้ไขอย่างไร

สรุปสาระสำคัญของคำตอบกระทู้ถาม

           คำตอบข้อที่ 1 กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ได้จัดสัมมนาสร้างความรู้ ความเข้าใจสิทธิและประโยชน์ทางภาษีศุลกากร พิธีการศุลกากร กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า เกี่ยวกับสินค้าเขตการค้าเสรีอาเซียนและเขตการค้าเสรีต่าง ๆ ให้กับผู้เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ประกอบการทั่วไป สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย เป็นต้น สำหรับอัตราภาษีนำเข้า ระเบียบพิธีการต่าง ๆ มีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ โดยปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีข้อมูลครบถ้วนและทันสมัย
           กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุโทรทัศน์ รวมทั้ง เครือข่ายสังคม (social network) ต่าง ๆ เช่น ทวิตเตอร์ (Twitter) เฟซบุ๊ก (Facebook) เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศด้วย
           มีการจัดตั้งศูนย์บริการ FTA One Stop Service ในศูนย์บริการร่วมกระทรวงพาณิชย์ ถนนรัชดาภิเษก จัดตั้งห้องสมุดเฉพาะทางเพื่อเป็นคลังข้อมูล FTA รวมทั้งอาเซียน และ AEC เพื่อประกอบการศึกษาค้นคว้าของผู้ที่สนใจ เปิดสายด่วนคอลเซ็นเตอร์ (call center) เพื่อให้ข้อมูลและตอบข้อซักถามต่าง ๆ ทางโทรศัพท์ เปิดรับฟังความคิดเห็นผ่าน 
ตู้ ปณ. 150 นนทบุรี 11000 และการจัดสัมมนาสาธารณะเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน

           คำตอบข้อที่ 2 รัฐบาลกำหนดรายการสินค้าอ่อนไหว (sensitive list) ของประเทศไทยไว้เพียง 4 รายการเท่านั้น ได้แก่ กาแฟ มันฝรั่ง มะพร้าวแห้ง และไม้ตัดดอก ไม่มีสินค้าอื่น ๆ อีก 

           คำตอบข้อที่ 3 รัฐบาลได้เตรียมมาตรการรองรับสำหรับการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area: AFTA) โดยมี 4 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม มีการประสานงานใกล้ชิดกับภาคเอกชน ภาคประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร และมีการกำหนดมาตรการในการดูแล โดยเฉพาะแนวทางมาตรการกำกับดูแลและติดตามการนำเข้าสินค้าเกษตรตามข้อผูกพัน AFTA 7 ประการ ได้แก่ 
           1. การกำหนดคุณสมบัติผู้นำเข้า 
           2. การพิจารณาชนิดสินค้าที่จะนำเข้าเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบ 
           3. การกำหนดระยะเวลาการนำเข้า 
           4. ต้องมีใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าภายใต้กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า (Ruled of Origin: RoOs)
           5. การกำหนดมาตรฐานคุณภาพสินค้า 
           6. การกำหนดมาตรการด้านสุขอนามัยที่เข้มงวดตามกติกาสากล และการกำหนดเงื่อนไขปลอดจีเอ็มโอ (GMOs) 
           7. การกำหนดด่านที่จะนำเข้าสินค้า 

           คำตอบข้อที่ 4 ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มีกองทุนเอฟทีเอ ซึ่งกองทุนดังกล่าวได้เข้าไปดูแลเกษตรกรและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบในการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมไปถึงการใช้มาตรการที่เป็นที่ยอมรับภายใต้กติกาสากล ในกรณีที่มีการทะลักเข้ามาของสินค้าและมีผลกระทบอย่างรุนแรง คือมาตรการปกป้อง (Safeguard) ของความตกลง ต่าง ๆ ภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO)
           สำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีการตั้งกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยได้ดูแลเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบไปแล้วหลายโครงการใช้งบประมาณไปแล้วประมาณ 480 ล้านบาท มีมาตรการระบบป้องกันความเสี่ยง เช่น โครงการประกันรายได้ขั้นต่ำให้กับเกษตรกรในเรื่องความเสี่ยงด้านราคา และภัยธรรมชาติ เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยเหลือเกษตรกรในเรื่องการปรับโครงสร้างพื้นฐาน ระบบน้ำ ระบบดิน การถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เกษตรกรมีความรู้เพิ่มเติม การบริการข้อมูลข่าวสาร การสร้างระบบมาตรฐานและการตรวจสอบรับรองสินค้าเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าอีกด้วย
           คำตอบข้อที่ 5 รัฐบาลได้ดำเนินการในการปรับเปลี่ยนแนวทางการบริหารพืชเศรษฐกิจ โดยเปลี่ยนแปลงจากระบบการรับจำนำ มาสู่การประกันรายได้เกษตรกร เนื่องจากในอดีตมีประเด็นปัญหาการเข้ามาสวมสิทธิในโครงการรับจำนำ ซึ่งโครงการประกันรายได้นั้นจะไม่มีการส่งมอบผลผลิตแต่เป็นการรับประกันรายได้ของเกษตรกร โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรในโครงการประกันรายได้แต่ละช่วงฤดูกาล ซึ่งเกษตรกรจะต้องแจ้งพื้นที่เพาะปลูก
           สำหรับเรื่องการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งคณะกรรมการบูรณาการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน มีผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมการ โดยช่วงปี 2552 – 2553 จับกุมผู้ลักลอบได้ ประมาณ 500 ราย รวมมูลค่าสินค้าประมาณ 20 ล้านบาท นอกจากนี้กรมศุลกากรได้กำชับด่านต่าง ๆ ทั่วประเทศให้มีการตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ เช่น เอกสารชำระอากร เอกสารรับรองแสดงสิทธิชำระภาษีตามพันธกรณีองค์การการค้าโลก (WTO) ให้ครบถ้วนที่สุด และยังได้ดำเนินการป้องกันปราบปรามการลักลอบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น แนวชายแดนต่าง ๆ ระหว่างช่วงเวลาที่มีการรับจำนำหรือรับประกันตามโครงการของรัฐบาล

           คำตอบข้อที่ 6 หลักคิดของรัฐบาลเป็นยุทธศาสตร์ประเทศ คือ การเข้าเป็นภาคีเขตการค้าเสรีไม่ว่าอาเซียนหรือเขตการค้าเสรีใดก็ตาม แนวทางคือการเปิดมากกว่าการปิด การแสวงโอกาสของความได้เปรียบ เช่น มาตรการลดอัตราภาษีศุลการกรเป็นร้อยละ 0 ในกลุ่มเฉพาะสมาชิก รัฐบาลจึงมีแนวคิดจะสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นที่เรียกว่า (Economic City) เพื่อเปลี่ยนภูมิทัศน์ของการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงความร่วมมือภายใต้กรอบอาฟต้า คำนึงถึงการเป็นเมืองท่าหน้าด่านในชายแดน โดยกำหนดนโยบาย 5 ประตู คือ ประตูเหนือ ประตูตะวันตก ประตูใต้ ประตูตะวันออก และประตูอีสาน โดยในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จะสร้างขึ้นประกอบไปด้วย เขตนิคมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ (logistics park) เขตนำเข้า ส่งออก (single inspection) ตลอดจนศูนย์การค้าเพื่อการส่งออก ศูนย์การค้า เพื่อการค้าส่งและค้าปลีก ซึ่งคำนึงถึงหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ได้แก่ ทรัพยากรธรรมชาติและวัตถุดิบที่มีราคาถูก แรงงานที่ ไปเช้าเย็นกลับ ผลผลิตทางการเกษตรที่สามารถใช้ได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำ และพื้นที่ดำเนินการให้ต้นทุนต่ำที่สุดของผู้ประกอบการ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาวของประเทศไทย ในการผลิตเพื่อส่งออกสำหรับการใช้วัตถุดิบทางการเกษตรและอื่น ๆ ของประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการพัฒนาโลจิสติกส์ภายใต้แนวคิดอาเซียนเป็นประชาคมแห่งความเชื่อมโยง (community of connectivity)

           คำตอบข้อที่ 7 นโยบายรัฐบาลนี้เป็นแนวใหม่ (new model) ซึ่งจะแปลงวิกฤตเป็นโอกาสในการเพิ่มพูนศักยภาพของชาติ สำหรับอุปสรรคทางการค้าอื่น รวมทั้งมาตรการที่มิใช่ภาษี จะใช้เท่าที่จำเป็นและเหมาะสม และเน้นใช้กลไกของการเจรจา รวมทั้งมาตรการปกป้อง (safeguard) เมื่อเกิดกรณีที่มีผลกระทบรุนแรง

           

 

เอกสารต้นเรื่อง 1. สรุปสาระสำคัญ



ASEAN Thailand 2019
สมัชชารัฐสภาอาเซียน
The ASEAN Secretariat
Inter-Parliamentary Union
กฎหมายในกลุ่มอาเซียน
ASEAN Thailand 2019
สมัชชารัฐสภาอาเซียน
The ASEAN Secretariat
Inter-Parliamentary Union
กฎหมายในกลุ่มอาเซียน

กลุ่มงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติหน้าที่สำนักงานศูนย์ประชาคมอาเซียนของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

โทร 022425900 ต่อ 7462

facebook   youtube

จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ 1,428,489
(ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565)

Tawdis WCAG 2.0 (Level AA)

คลิกดูสถิติการเข้าชมเว็บไซต์สภาผู้แทนฯ
sitemap แผนผังเว็บไซต์

หน้าหลัก

แนะนำองค์กร

ข้อมูลประชาคมอาเซียน

● ประวัติอาเซียน

● วิสัยทัศน์อาเซียน

● กฎบัตรอาเซียน

● สำนักงานเลขาธิการอาเซียน

● ประธานอาเซียน

● เลขาธิการอาเซียน

รัฐสภาไทยกับอาเซียน

● การเยือนประเทศสมาชิก

● การรับรองบุคคลสำคัญ

● สมัชชารัฐสภาอาเซียน AIPA

● กลุ่มมิตรภาพ

● พลเมืองอาเซียน

● อินไซต์อาเซียนและรอบโลก

○ อินไซต์อาเซียน
○ รอบโลก

การวิจัยและพัฒนากฎหมาย

● งานวิจัยและพัฒนากฏหมาย

● งานวิชาการ

○ ประชาคมการเมืองและความมั่นคง
○ ประชาคมเศรษฐกิจ
○ ประชาคมสังคมและวัฒนธรรม

● เอกสารวิชาการอื่นๆ

FAQ

ติดต่อเรา

ภาพข่าวกิจกรรม

ข่าวสารอาเซียน

งานวิจัยและพัฒนากฎหมาย

กฎหมายเปรียบเทียบ

● รัฐธรรมนูญของประเทศสมาชิกอาเซียน

● การเสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาคในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

● ความร่วมมือในภูมิภาคในเรื่องการต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์

● ความร่วมมือทางอาญาในภูมิภาคอาเซียนในเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน

● พันธกรณีตาม ASEAN Economic Economy Blueprint 2025

● การศึกษาเปรียบเทียบกลไกระงับข้อพิพาทการลงทุนหรือกฎหมายว่าด้วยอนุญาโตตุลาการ

● การศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว

● กฎหมายว่าด้วยการแข่งขันที่เป็นธรรมทางการค้า

● ทรัพย์สินทางปัญญา

● การยอมรับและการบังคับคดีตามคาพิพากษาของศาลต่างประเทศ

● การอำนวยความสะดวกทางการค้า

● พาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ของอาเซียน

● มาตรฐานแรงงานในอาเซียน

● กฎหมายตามพันธกรณีความร่วมมือของประชาคมอาเซียนด้านประชาคมสังคมและวัฒนธรรม การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน

● การยอมรับและการบังคับคดีให้เป็นไปตามคาพิพากษาของศาลต่างประเทศในคดีแพ่งหรือพาณิชย์

● การรับรองความถูกต้องแท้จริงของเอกสารราชการ