ประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการจัดโครงการรัฐสภาเพื่อการพัฒนาจังหวัดนราธิวาส เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
วันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2567 เวลา 11.30 นาฬิกา ณ ห้องจัดประชุมสัมมนา B1 - 2 ชั้น B1 อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการจัดโครงการรัฐสภาเพื่อการพัฒนาจังหวัดนราธิวาส เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในการนี้ นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายมุก สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมแถลงข่าว
โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวว่า ตนได้มีดำริจัดโครงการรัฐสภาพบประชาชนลงในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศ ซึ่งในเบื้องต้นจะเริ่มที่ จ.นราธิวาส ในวันที่ 14 - 15 มิ.ย. 67 โดยจังหวัดนี้มีพี่น้องประชาชนที่มีความยากจนจำนวนมาก เนื่องจากในปัจจุบันสภาผู้แทนราษฎรได้ให้ สส. นำปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่มานำเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงของการหารือ ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎรจึงต้องการที่จะร่วมแก้ปัญหาเหล่านี้ให้เป็นรูปธรรมให้เร็วที่สุด และเห็นว่าช่วงปิดสมัยประชุม สภาไม่มีการประชุม และ สส. จะอยู่ในพื้นที่ จึงควรหาโอกาสลงพื้นที่เพื่อดูปัญหาของพี่น้องประชาชนเพื่อนำไปสู่การแก้ไข ดังนั้น จึงได้กำหนดจัดโครงการรัฐสภาพบประชาชนขึ้น ประกอบกับปีนี้เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 28 ก.ค. 67 จึงได้ทำหนังสือไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอนำโครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติ โดยได้ปรับชื่อโครงการเป็น "โครงการรัฐสภาเพื่อการพัฒนาจังหวัดนราธิวาส เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567"
สำหรับการลงพื้นที่ จ.นราธิวาส นี้ จะมีการแก้ไขปัญหาชุมชนบ้านชายทะเลหาดนราทัศน์ ซึ่งเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ของกรมเจ้าท่า ปัญหาที่ร้องเรียนคือการจ่ายค่าใช้กระแสไฟฟ้าราคาแพง ด้วยเหตุที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่มานานแล้วและไม่สามารถขอทะเบียนบ้านได้ มีผลทำให้ไม่สามารถขอมิเตอร์ไฟฟ้าได้ จึงจำเป็นต้องไปขอเชื่อมต่อจากชาวบ้านที่มีมิเตอร์จึงทำให้ต้องเสียค่าไฟแพง ซึ่งก่อนที่จะเดินทางลงพื้นที่ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือจนสามารถแก้ไขได้คือ กรมเจ้าท่ายินยอมให้ชาวบ้านอยู่อาศัยต่อไปได้ เทศบาลได้จัดทำทะเบียนบ้านชั่วคราวให้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ติดตั้งมิเตอร์อันมีผลทำให้เสียค่าไฟราคาถูก ซึ่งได้แก้ไขไปในเบื้องต้นแล้วจำนวน 333 ครอบครัว ยังคงมีที่จะต้องดำเนินการในลำดับต่อไปอีก 207 ครอบครัว
นอกจากนี้ จะมีการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินของชาวบ้านที่อาศัยอยู่มาเป็นเวลานานกว่า 50 ปี ซึ่งเป็นที่ดินทั้งในส่วนของกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป โดยจะจัดการสัมมนาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ในวันที่ 15 มิ.ย. 67 ณ โรงแรมอิมพีเรียล อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส ซึ่งจะเชิญตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนมาพูดคุยร่วมกับหน่วยงานจังหวัดและส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกัน
อีกทั้ง ยังมีการจัดสวัสดิการแก่ชาวบ้าน ได้แก่ การมอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียน 40 ทุน มอบจักรยาน 100 คัน มอบข้าวสาร 600 ถุง น้ำตาลทราย 1,000 ถุง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 10,000 ซอง แว่นตาผู้สูงอายุ 300 คน และการจัดบริการขายสินค้าราคาถูกจากธงฟ้าโดยกระทรวงพาณิชย์ การจัดบริการตรวจสุขภาพแก่ เด็ก สตรี คนชรา และผู้ป่วยที่นอนติดเตียงโดยหน่วยแพทย์ สาธารณสุขจังหวัด และมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวกับการแพทย์ ตลอดจนมอบอุปกรณ์กีฬา มูลค่า 1 แสนบาท
นอกจากนี้ ในช่วงการพบปะประชาชนในครั้งนี้ เป็นช่วงใกล้วันสำคัญทางศาสนาอิสลาม คือ วันอีดิ้ลอัฎอฮา ในวันที่ 17 มิ.ย. 67 จึงจะมีการมอบวัวจำนวน 6 ตัว เพื่อทำการเชือดเนื้อกุรบ่านแล้วแจกจ่ายให้กับพี่น้องมุสลิมนำไปรับประทาน ทั้งนี้ การลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนจังหวัดนราธิวาสในครั้งนี้จะเป็นโมเดลตัวอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ ต่อไป