สส.พรรคประชาชน เรียกร้องรัฐบาลแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำและผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้ายางรถยนต์ของสหรัฐอเมริกา

วันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2568 เวลา 10.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ และ น.ส.ชุติมา คชพันธ์ สส.พรรคประชาชน แถลงข่าวเรียกร้องรัฐบาลให้แก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำและผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้ายางรถยนต์ของสหรัฐอเมริกา

นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ กล่าวว่า ราคาปาล์มน้ำมันที่ตกต่ำอย่างผิดปกติในช่วงหลังสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ราคาอยู่ที่ 8 บาทขึ้นไป ซึ่งมีข้ออ้างจากโรงงานหีบปาล์มน้ำมันว่า ปาล์มน้ำมันไม่ถึงร้อยละ  18 และอ้างว่าผลปาล์มทะลายออกเกินปกติ ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และเมื่อวานนี้ ชาวสวนปาล์มได้ไปยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่และผู้ว่าราชการจังหวัดตรังเพื่อยืนยันว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของชาวสวนปาล์มไม่ได้หากกลไกรัฐโดยเฉพาะกรมการค้าภายในและกระทรวงพาณิชย์ยังไม่เป็นผล ซึ่งตามกลไกรัฐจะมี พ.ร.บ.ควบคุมราคาสินค้าและบริการ ที่สามารถเข้าไปดูโครงสร้างของราคาปาล์มน้ำมันทะลายได้ วันนี้ราคาปาล์มที่ขายอยู่ในห้างขวดละ 60 บาทขึ้นไป ในขณะที่ปาล์มทะลายรับซื้อเหลือ 4 บาทกว่าเท่านั้น เห็นได้ว่าเป็นการเอากำไรมากเกินควร เอาเปรียบผู้บริโภคส่วนใหญ่ทั้งประเทศ และเอาเปรียบผู้บริโภคชาวสวนปาล์ม ได้เคยมีการเข้าไปตรวจสอบโครงสร้างของการทำงานพบว่า กำลังการผลิตของโรงงานหีบปาล์มน้ำมันสามารถผลิตน้ำมันได้ไม่ล้นตลาดและไม่ต้องรอคิวยาว แต่หลังจากที่ชาวสวนปาล์มไปยื่นหนังสือทั้งจังหวัดกระบี่และจังหวัดตรัง ปรากฏว่าพาณิชย์จังหวัดพยายามออกมาให้ข่าวว่าเป็นความผิดของชาวสวนปาล์มเพราะปาล์มทะลายออกมามาก จึงควรชะลอการตัดปาล์มทะลายออกมาขาย แต่ในขณะเดียวกันชาวสวนปาล์มยืนยันมาตลอดว่ากำลังการผลิตของโรงงานที่มีในจังหวัดกระบี่อย่างน้อย 21 โรงงาน หากเดินเครื่องจักรเต็มกำลัง สามารถผลิตน้ำมันปาล์มตามกำลังการผลิตได้เต็มที่ ดังนั้น จึงฝากไปยังรัฐบาลให้แก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวสวนปาล์ม

น.ส.ชุติมา คชพันธ์ กล่าวถึงเรื่องของยางพาราที่มีราคาตกต่ำว่า ยางพาราคือสินค้าที่พี่น้องเกษตรกรผลิตและขายวันต่อวันเพื่อใช้ดำรงชีพในครอบครัว แต่ รมว.เกษตรและสหกรณ์เพิ่งเรียกประชุมคณะกรรมการควบคุมยางครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา ทั้งที่คณะกรรมการชุดนี้ควรจะจัดประชุมตั้งแต่ต้นปีคือเดือนมกราคม สะท้อนให้เห็นถึงความไม่ตั้งใจ ไม่จริงใจในการแก้ปัญหาให้ประชาชน และขอเรียกร้องให้ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประกาศให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางพาราได้ทราบว่า จะมีมาตรการอย่างไรเพื่อแก้ปัญหาให้ราคายางพาราสูงขึ้นและจะดำเนินการลงโทษอย่างไรกับพ่อค้าคนกลางที่กดราคารับซื้อน้ำยางในราคาถูก เอาเปรียบพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางพารา นอกจากนี้ ยังเกิดผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้ายางรถยนต์ของสหรัฐอเมริกาด้วย โดยประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกยางพาราเป็นอันดับ 1 ของโลก ในปี 2567 มีการส่งออกยางพารา 3.96 ล้านตัน การที่สหรัฐอเมริกาขึ้นภาษีนำเข้าถึงร้อยละ 37 ส่งผลกระทบต่อการส่งออกยางรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยอย่างแน่นอน ส่งผลกระทบต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นการแก้ปัญหาหรือวิธีการใด ๆ จากรัฐบาลที่สื่อสารให้พี่น้องชาวสวนยางพาราได้สบายใจเพื่อลดความตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปยังรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็นการส่วนตัว เพื่อลงพื้นที่เก็บข้อมูล สำรวจสถานการณ์ปัจจุบันก่อนที่จะมีการประกาศขึ้นภาษีอย่างจริงจังในอีก 90 วันข้างหน้า โดยไปเก็บข้อมูลที่ร้านจำหน่ายยางรถยนต์ สัมภาษณ์ผู้ประกอบการ พนักงาน และผู้ใช้รถชาวอเมริกัน ซึ่งได้ข้อมูลที่น่าสนใจสรุปได้ว่า ผลกระทบจากการที่สหรัฐอเมริกาขึ้นกำแพงภาษียางรถยนต์ที่นำเข้าจากประเทศไทย ผู้ที่รับได้รับผลกระทบมากที่สุดคือชาวสวนยางพาราของไทย ในขณะที่โรงงานแปรรูปยางรถยนต์ในไทยก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน และหากวันหนึ่งมีการย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น เมื่อนั้นชาวสวนยางพาราของเราจะยิ่งพบกับสถานการณ์ที่แย่กว่าเดิม ส่วนปลายน้ำอย่างผู้ประกอบการร้านจำหน่ายยางรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาเอง ไม่ได้รับผลกระทบเท่าใดนัก ยางรถยนต์ของประเทศใดนำเข้ามาเขาก็ขายและเป็นไปได้ว่าผู้ซื้อชาวอเมริกันจะหันไปซื้อยางรถยนต์จากประเทศอื่นแทนในราคาที่ถูกกว่าในมาตรฐานระดับเดียวกัน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งนัดเจรจารอบใหม่กับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้จะถูกเลื่อนนัดมาแล้วก็ขอให้นัดหมายใหม่โดยเร็ว และให้ความสำคัญกับสินค้าเกษตรมากขึ้น โดยเฉพาะยางพาราซึ่งมีผลกระทบต่อเกษตรกรหลายล้านคนทั่วประเทศ ขอให้เจรจาผ่อนปรนหรือยกเว้นมาตรการภาษี ในขณะเดียวกัน ขอให้สร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ไทย สนับสนุนการสร้างแบรนด์ยางรถยนต์ไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากลมากขึ้น รวมถึงเปิดตลาดใหม่ ๆ อาทิ ยุโรป และยกระดับให้ได้ตามมาตรฐาน EUDR ซึ่งไทยยังมีปัญหาที่สวนยางพาราอีกหลายล้านไร่ยังเป็นพื้นที่ถือครองไม่ถูกต้องตามกฎหมายจากการประกาศพื้นที่ซับซ้อนของรัฐบาลในอดีต จึงขอให้รัฐบาลปลดล็อกพื้นที่เหล่านั้นและแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน