สส. พรรคประชาชน ติดตามทวงถามคณะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในการผลักดันเชียงใหม่เป็นแหล่งมรดกโลก จี้ขอคำตอบที่เป็นรูปธรรม ชัดเจนภายในสิ้นเดือนนี้
25 เมษายน 2568
วันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2568 เวลา 10.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา น.ส.เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู สส. จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายสรพัช ศรีปราชญ์ สส.จังหวัดสระบุรี พรรคประชาชน แถลงข่าวติดตามสัญญาของพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล เรื่องการผลักดันการขึ้นทะเบียนวัดเชียงมั่น วัดอุโมงค์ วัดพระสิงห์ วัดสวนดอก วัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดเจดีย์หลวง วัดเจ็ดยอด และแนวคูเมือง แจ่ง กำแพงเมือง ประตูเมือง จ.เชียงใหม่ เป็นมรดกโลก โดยเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 68 ได้เคยปรึกษาหารือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เรียกร้องไปยังคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี ให้บรรจุวาระและมีมติคณะรัฐมนตรีเพื่อเร่งรัดให้ภาครัฐส่งเสริม พร้อมทั้งดำเนินการศึกษาและจัดทำเอกสารการขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกให้เสร็จสิ้นโดยเร็วและเร่งด่วนที่สุด ต่อมาในวันที่ 17 มกราคม 2568 รมว.วัฒนธรรมได้ตอบรับเรื่องนี้ทันที แต่เป็นการรายงานการทำงานและชื่นชมการทำงานของภาคประชาชนและคณะทำงานฯ เท่านั้น โดยไม่ได้บรรจุประเด็นดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุมคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด และในวันที่ 30 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตรได้พูดบนเวทีปราศรัยของการเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ อีกครั้งหนึ่งว่าจะผลักดันเชียงใหม่เป็นแหล่งมรดกโลก รวมทั้งมีการยืนยันคำพูดนี้อีกครั้งในวันที่ 13 เมษายน 2568 ว่าจะสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีการพูดคุยผลักดันโดยใช้งบประมาณและการส่งเสริมจาก อบจ.เชียงใหม่ แต่ก็ยังเป็นแค่การพูดคุย โดยไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด และเมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา รมว.วัฒนธรรม ยังได้รับหนังสือเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำเอกสารผลักดันเชียงใหม่เป็นแหล่งมรดกโลกให้เป็นนโยบายเร่งรัดของคณะรัฐมนตรี จากภาคประชาชนไปแล้ว รวมทั้งมีการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ จ.เชียงใหม่ ไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง แต่กลับไม่มีการหยิบยกประเด็นการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของ จ.เชียงใหม่ เลยแม้แต่ครั้งเดียว ในทางกลับกัน จ.น่าน และ จ.สงขลา กลับได้รับงบประมาณจากคณะรัฐมนตรีในการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปแล้วตามลำดับ ตอนนี้ภาคประชาชนและคณะทำงานดำเนินการเองอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอความสำคัญของสถานที่ต่าง ๆ การทำประชาพิจารณ์ร่วมกับตัวแทนชุมชนรอบสถานที่ที่จะเป็นแหล่งมรดกโลกทั้ง 8 แห่ง ซึ่งมีผู้เห็นด้วยกว่าร้อยละ 96.42 จากตัวแทนหมู่บ้านและชุมชนรวมกว่า 150 แห่ง แต่ยังขาดการสนับสนุนงบประมาณและการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในวงกว้างจากภาครัฐ ในฐานะผู้แทนราษฎร จ.เชียงใหม่ จึงขอเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และบุคคลอื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้คำมั่นสัญญากับประชาชนในเรื่องดังกล่าวออกมาแสดงจุดยืน เพราะหากยื้อเวลาให้ช้าไปกว่านี้ จ.เชียงใหม่ จะเสียโอกาสสำคัญในการขึ้นทะเบียนมรดกโลก ตลอดจนโอกาสทางเศรษฐกิจ การพัฒนาเมือง และอื่น ๆ อีกมากมายที่ภาคประชาชนและเมืองเชียงใหม่จะได้รับ ทั้งนี้ ขอเป็นตัวแทนพูดแทนพี่น้องประชาชน และขอคำตอบที่เป็นรูปธรรมและชัดเจนภายในสิ้นเดือนนี้