กมธ.วิสามัญแก้ไขปัญหาช้างป่าฯ แถลงข่าวภายหลังเข้าพบรองนายกฯ เพื่อหารือแนวทางและชี้แจงข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาช้างป่า
8 พฤษภาคม 2568
วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน โฆษกคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาติดตามผลการดำเนินงานและศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างยั่งยืน รวมทั้งมาตรการเยียวยาความเสียหายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมด้วย นายดิเรก จอมทอง เลขานุการคณะ กมธ. และคณะ แถลงข่าวภายหลังคณะกมธ. ได้เข้าพบหารือแนวทางและชี้แจงข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาช้างป่า กับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานคณะกรรมการอนุรักษ์และจัดการช้าง เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีประเด็นการหารือ ทั้ง 4 ประเด็น
1. ขอให้คณะกรรมการอนุรักษ์ฯ ผลักดันงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2562 จำนวน 100 ล้านบาท เพื่อนำมาช่วยเหลือการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่าตามหลักเกณฑ์ใหม่ ที่คณะ กมธ.เสนอ โดยอนุกมธ.ศึกษาการแก้ไขระเบียบหลักเกณฑ์การเยียวยาฯ และขณะนี้ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการคลัง และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ออกระเบียบหลักเกณฑ์ในการจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว
2. เสนอใช้กลไกทางภาษีในการกำหนดมาตราการแรงจูงใจให้บุคคลธรรมดาทั่วไปเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา โดยให้นำใบเสร็จรับเงินที่บริจาคมาลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งคณะ กมธ. โดยคณะอนุ กมธ.พิจารณาศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะด้านวิชาการและกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างยั่งยืน เห็นว่าเข้าข่ายให้คณะกรรมการฯ นำเสนอคณะรัฐมนตรีให้เห็นชอบในหลักการได้ จากนั้น กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากรจะได้จัดทำระเบียบหลักเกณฑ์เพื่อลดหย่อนภาษี ต่อไป
3. การพิจารณาพื้นที่ที่มีเหมาะสมในการสร้างเป็นแหล่งอาหาร แหล่งน้ำ เพื่อป้องกันและลดปัญหาช้างป่าออกจากป่าอนุรักษ์ไปสร้างความเสียหายแก่ประชาชน จากนั้น จึงพัฒนาสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์รูปแบบใหม่ หรือ Safari ให้มีการจัดการอย่างเป็นระบบเป็นการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว ลดความขัดแย้งระหว่างคนและช้างป่า และสร้างรายได้ในพื้นที่ โดยคณะ กมธ.ได้เสนอพื้นที่เหมาะสม ได้แก่ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โครงการป่านันทนาการไทรสามขา จ.ฉะเชิงเทรา โครงการป่านันทนาการ ตำบลพลวงทอง จ.ชลบุรี และโครงการทับเสลา จ.อุทัยธานี
4. การขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายงบกลางจากรัฐบาล เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างแบริเออร์คันกันช้างดาดคอนกรีตรอบพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ระยะทางประมาณ 660 กิโลเมตร ครอบคลุม พื้นที่ 5 จังหวัด
ทั้งนี้ ประเด็นทั้งหมด รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยในระหว่างนี้คณะ กมธ. ได้จัดทำหนังสือเรียนประธานคณะกรรมการฯ พร้อมชี้แจงเหตุผล ความจำเป็นตามวาระเร่งด่วนทั้ง 4 ข้อ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากที่ได้รับหนังสือ รัฐบาลจะเร่งรัด พิจารณาดำเนินการโดยเร็วที่สุด