รองประธานคณะ กมธ. การศึกษา คนที่หนึ่ง และคณะรับยื่นหนังสือจากนายเกรียงศักดิ์ สร่างโศก ประธานสมาพันธ์เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนแห่งประเทศไทย เรื่อง การปรับวิธีการจ้างอัตราจ้างให้ผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียน ให้เป็นแบบเดิมที่มีความเป็นธรรม
2 ตุลาคม 2567
วันพุธที่ 2 ตุลาคม 2567 เวลา 10.30 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา รศ.สุรวาท ทองบุ รองประธานคณะ กมธ. การศึกษา คนที่หนึ่ง และคณะรับยื่นหนังสือจากนายเกรียงศักดิ์ สร่างโศก ประธานสมาพันธ์เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนแห่งประเทศไทย เรื่อง การปรับวิธีการจ้างอัตราจ้างให้ผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียน ให้เป็นแบบเดิมที่มีความเป็นธรรม ตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่องการจัดสรร อัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ข้าราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยปรับวิธีการจ้างเป็นวิธีการจ้างโดยปรับวิธีการจ้างเป็นวิธีการจ้างเหมาบริการ และตัดงบเงินกองทุนประกันสังคมรายเดิม โดยคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการโครงการคืนครูให้นักเรียน โดยจัดหาบุคลากรมาปฏิบัติงานแทนครู จำนวน 23,277 อัตรา ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ วัตถุประสงค์โครงการ เพื่อให้ข้าราชการครูที่ต้องปฏิบัติงานอื่นซึ่งไม่ใช่ภารกิจหลักในการพัฒนาผู้เรียนได้กลับไปปฏิบัติงานตามภารกิจหลัก คือ 1. จัดกิจกรรมการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล 2.สถานศึกษาสามารถปฏิบัติการสอนจัดการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม 3. มีความคล่องตัวในการดำเนินงานและข้าราชการครูได้เต็มที่ 4. ให้ข้าราชการครูได้ปฏิบัติกิจกรรมการเรียนการสอนและพัฒนาผู้เรียนอย่างเต็มที่ เป็นที่มาของเจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียน (โครงการคืนครูให้นักเรียน) โดยใช้วิธีการจ้างในงบดำเนินงาน ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 จนถึงปัจจุบัน ปีงบประมาณ 2567 ทั่วประเทศ ตามที่กรมบัญชีกลาง ได้กำหนดให้กระทรวงศึกษาธิการเปลี่ยนรูปแบบการจ้างครูอัตราจ้างหรือเจ้าหน้าที่อัตราจ้างอื่น ๆ เช่นเจ้าหน้าที่ธุรการ ซึ่งถือว่าเป็น "การจ้างแรงงาน" เปลี่ยนเป็น "จ้างเหมาบริการ" ส่งผลให้สำนักงบประมาณต้องจัดสรรงบประมาณตามลักษณะ " การจ้างเหมาบริการ" คือไม่มีงบประมาณด้านสิทธิประโยชน์ทั้งในเรื่องเงินประกันสังคม การไม่จ่ายเงินให้ในวันลา สวัสดิการใด ๆ ซึ่งการเปลี่ยนจาก "การจ้างแรงงาน" ครูอัตราจ้าง หรือ เจ้าหน้าที่ธุรการ เป็น "การจ้างเหมาบริการ" ทำให้บุคลากรดังกล่าว ไม่ได้รีบความเป็นธรรมขาดสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายแรงงาน จึงขอให้คณะ กมธ. ดำเนินการช่วยเหลือบุคลากรทางการศึกษา ดังนี้
1. ขอให้ทบทวนการจ้างเหมาบริการ ให้เป็นวิธีการจ้างลูกจ้างชั่วคราว และขอเพิ่มกรอบเงินเดือนจากเดิม 15,000 บาท ปรับเป็น 18,000บาท
2. เพิ่มค่าเสี่ยงภัยให้แก่เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2,500 บาท
3. ขอปรับตำแหน่งให้สูงขึ้นตามอายุงานที่มากกว่า 10 ปี
4. ขอจัดสรรตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการให้ครบทุกโรงเรียน
5. ขอให้ยกเลิกการจ้างเหมาบริการบัญชีจัดสรรธุรการโรงเรียน อัตรา 9,000 บาท ให้เป็นตำแหน่งชั่วคราว และขอเพิ่มค่าจ้างเป็น 12,000 บาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ครูธุรการทั้งประเทศและปฏิบัติหน้าที่สายสนับสนุนการศึกษาสืบไป
รศ.สุรวาท ทองบุ กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า คณะ กมธ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ในเรื่องดังกล่าว ในสัปดาห์หน้าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าประชุมคณะ กมธ.และจะเชิญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาคามเดือดร้อนของบุคลากรทางการศึกษา และในวันพรุ่งนี้ (3 ต.ค. 67) จะตั้งกระทู้ถามสดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งขอแสดงความเสียใจกับบุคลากรทางการศึกษาและนักเรียน ที่ประสบเหตุไฟลุกไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี ทำให้มีครูและนักเรียนเสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งไม่ต้องการให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก