วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2567 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.พรรคประชาชน รับยื่นหนังสือจาก นายสมยศ ศรีสมบูรณ์ เจ้าของสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้า RHINO แรดที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีที่เกิดความเสียหายในสิทธิ์ความเป็นเจ้าของตามกฎหมายในเครื่องหมายการค้า เนื่องด้วยนายสมยศ ศรีสมบูรณ์ ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า RHINO แรด เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 59 และคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าได้มีมติเป็นเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 67 ให้นายสมยศได้ขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าของสิทธิ์เครื่องหมายการค้า RHINO แรด อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยนับระยะเวลาตั้งแต่ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวจนถึงวันได้รับการจดทะเบียน เป็นเวลาที่เกิดความเสียหายประมาณ 7 ปี ที่นายสมยศ ไม่สามารถดำเนินธุรกิจนี้ได้ ทั้งนี้นายสมยศได้ยื่นขอจดทะเบียนต่อนายทะเบียนกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ และได้รับการขึ้นทะเบียนเครื่องหมายการค้าเรียบร้อยแล้วโดยสุจริตชอบธรรมตามกฎหมาย และได้แสดงเจตนาชัดเจนด้วยพยานเอกสารเชิงประจักษ์ทุกประการแล้วว่ามีความประสงค์ด้วยความบริสุทธิ์ใจในการดำเนินธุรกิจภายใต้เครื่องหมายการค้า RHINO แรดนี้จริง โดยได้ยื่นขออนุญาตตามกฎหมายอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประการ และได้รับอนุญาตให้ใช้ฉลากสินค้าชื่อ RHINO แรด ได้ส่งตัวอย่างเครื่องดื่ม RHINO แรด ให้กรมสรรพสามิตตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานผ่านเกณฑ์ตามกฎหมายทุกประการ พร้อมทั้งยังได้เคยดำเนินการผลิตแล้ว มีหลักฐานการผลิตที่โรงงานในต่างประเทศ และได้ทำหนังสือแสดงต่อกรมสรรพสามิตผ่านการพิจารณาทุกอย่าง แต่ติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมายตามกรณีที่บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งหนึ่งนำชื่อเครื่องหมายการค้า BLACK RHINO STOUNT มาแสดงสิทธิคัดค้านและทำการยื่นอุทธรณ์สิทธิเครื่องหมายการค้า ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเป็นการทำให้เครื่องหมายการค้า RHINO แรด เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อการดำเนินธุรกิจผลิตสินค้าเครื่องดื่มภายใต้ชื่อ RHINO แรด อันเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นายสมยศ ขาดประโยชน์ เสียโอกาสทางธุรกิจ และไม่สามารถประกอบกิจการภายใต้เครื่องหมายการค้า RHINO แรดได้ จึงขอให้ สส. ช่วยเชิญบริษัทดังกล่าวมาเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องชดใช้ค่าเสียหายเพื่อหาทางออกที่ดีร่วมกัน
นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเครื่องหมายทางการค้าซึ่งเป็นเรื่องของเอกชนกับเอกชนที่ผู้ร้องสามารถใช้สิทธิ์ทางศาลในการฟ้องละเมิดเพื่อเรียกค่าเสียหายได้อยู่แล้ว แต่หากไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนก็จะพิจารณาเรื่องนี้ให้อีกครั้ง และในฐานะที่สภาผู้แทนราษฎรเป็นฝ่ายนิติบัญญัติจึงตั้งข้อสังเกตว่า การมีเหตุการณ์เช่นนี้เป็นช่องโหว่ทางกฎหมายไทยหรือไม่ เรื่องของกฎหมายลิขสิทธิ์เครื่องหมายทางการค้าซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ดูแลอยู่ต้องมีการปรับปรุงกฎหมายหรือไม่ เพราะตนได้รับการร้องเรียนมาหลายกรณีที่มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้จำนวนมากเหมือนว่าจดทะเบียนเผื่อไว้เพื่อให้เป็นลิขสิทธิ์ของตนแต่ไม่ได้มีการดำเนินธุรกิจใด ๆ ทั้งนี้ ยังไม่มีกฎหมายหรือข้อห้ามใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งจะต้องไปดูให้ละเอียด และอาจต้องมีการปรับปรุงกฎหมายเพราะการกระทำเช่นนี้เหมือนเป็นการจองที่และตัดโอกาสผู้ประกอบการรายใหม่ในการเข้าสู่ตลาด ซึ่งเป็นหน้าที่ของ สส. โดยตรงเพราะเรื่องนี้กระทบสิทธิ์ประชาชนทั่วไป โดยจะต้องมีการอุดช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจจริงเท่านั้นที่สามารถอ้างสิทธิ์นี้ได้