คณะกมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ จับมือสมาคมอีคอมเมิร์ซไทย จัดทำแพลตฟอร์ม “นักสืบทุนเทา” เพื่อเป็นช่องทางรับเรื่องร้องเรียนธุรกิจผิดกฎหมายของชาวต่างชาติ เชิญชวนประชาชนร่วมชี้เป้าธุรกิจผิดกฎหมายของชาวต่างชาติผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของธุรกิจไทยให้รอดพ้นจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
30 ตุลาคม 2567
วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567 เวลา 10.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ประธานคณะ กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ และคณะ แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “นักสืบทุนเทา” คณะกมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ ร่วมกับ สมาคมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย โดย นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ที่ปรึกษาและนายกกิตติมศักดิ์ จัดทำแพลตฟอร์ม "นักสืบทุนเทา" เพื่อเป็นช่องทางรับเรื่องร้องเรียนธุรกิจทุนเทาของชาวต่างชาติที่อาจขัดต่อกฎหมายผ่านแพลตฟอร์ม Traffy Fondue โดยตั้งเป้าสร้างความเป็นธรรมในภาคธุรกิจ เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีบทบาทในการเฝ้าระวัง พร้อมช่วยชี้เป้าธุรกิจต่างชาติที่กระทำผิดกฎหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของธุรกิจไทยให้รอดพ้นจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมโดยทุนต่างชาติ รวมทั้งป้องกันการแพร่หลายของทุนเทาในระบบเศรษฐกิจไทย เนื่องจากปัญหาทุนสีเทานับวันยิ่งทวีความซับซ้อนและยากที่จะจัดการได้ด้วยกลไกเดิม แม้ว่าภาคราชการจะพยายามติดตามปัญหาอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม แพลตฟอร์ม “นักสืบทุนเทา” จะเชื่อมโยงการทำงานระหว่างประชาชนและคณะกมธ.โดยตรง ซึ่งจะทำให้กระบวนการตรวจสอบและการดำเนินการมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและภาคธุรกิจไทยให้ได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นรูปธรรม และหลังจากเปิด soft launch ไปหนึ่งสัปดาห์ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากทั้งหน่วยงานราชการ และประชาชนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องที่ภาคเอกชนได้รับผลกระทบและได้พยายามสะท้อนออกมาอย่างต่อเนื่อง โครงการนี้จึงเชิญชวนทั้งภาคเอกชนและประชาชนทุกคนให้เข้ามามีส่วนร่วม ผ่านการตรวจสอบและรายงานปัญหาเพื่อสนับสนุนกลไกการทำงานของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยโครงการในระยะแรกจะเปิดรับเรื่องร้องเรียนตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. - 31 ธ.ค. 67 ครอบคลุม 6 ประเด็นเร่งด่วน ได้แก่ การชี้เป้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ การกระทำผิดด้านภาษี และปัญหาธุรกิจของชาวต่างชาติ โดยคาดหวังว่าจะได้รับเรื่องร้องเรียนไม่น้อยกว่า 1,000 กรณีภายในระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งจากการทดสอบระบบในช่วงสัปดาห์แรก มีประชาชนให้ความสนใจร่วมแจ้งเบาะแสแล้วกว่า 200 กรณี โดยสินค้าต่างชาติที่ไม่มี อย. เป็นเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนสูงที่สุด ตามมาด้วยการชี้เป้าทุนต่างชาติสีเทาต้องสงสัยผิดกฎหมาย โดยคณะ กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการแจ้งเบาะแสจากทั่วประเทศเพิ่มเติม แม้ว่าโครงการ “นักสืบทุนเทา” อาจดูเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายทาง แต่เป้าหมายสำคัญของคณะ กมธ. คือ การรวบรวมข้อมูลเชิงลึกและภาพรวมของปัญหา เพื่อนำไปเสนอต่อรัฐบาลให้จัดการอย่างเป็นระบบและยั่งยืน และหากปัญหานี้ไม่ได้รับการตอบสนองอย่างเหมาะสม ข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำไปเป็นพื้นฐานในการร่างนโยบายของพรรคการเมืองที่มีความสนใจในการแก้ไขปัญหานี้ต่อไปในอนาคตอีกด้วย