คณะ กมธ.การแรงงาน รับข้อเสนอจากกลุ่ม Bright Future ขอใช้ "บัตรชมพู" รับรองสถานะชาวเมียนมาในไทย และยกเลิกการใช้เอกสาร "สมุดเขียว" เพื่อลดภาระทางเอกสาร และนำแรงงานข้ามชาติที่อยู่นอกระบบมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย

วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2567 เวลา 14.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายเซีย จำปาทอง รองประธานคณะ กมธ.การแรงงาน คนที่สอง รับยื่นหนังสือจาก นายวีระ แสงทอง ตัวแทนผู้ใช้แรงงานข้ามชาติชาวเมียนมาในนามกลุ่ม Bright Future เพื่อยื่นข้อเรียกร้องเนื่องในวันแรงงานข้ามชาติสากล  เนื่องด้วย คณะรัฐมนตรีได้มีมติวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 เปิดให้มีการขึ้นทะเบียนบัตรชมพูระหว่างวันที่ 16 - 30 ธันวาคม 2567 สำหรับคนสัญชาติลาว กัมพูชา เวียดนามและเมียนมาที่อาจจะยังมีเอกสารสำคัญไม่ครบถ้วนหรือหมอดอายุแล้ว นับเป็นแนวทางที่น่าชื่นชมในการแก้ไขปัญหาแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็นนายจ้างชาวไทยหรือแรงงานชาวเมียนมายังมีข้อกังวลในประเด็น "บัตรชมพู" หรือ "บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย" และ "เล่มเขียว" หรือ "Certificate of Identity" ซึ่งเป็นอุปสรรคและภาระเรื่องเวลาและค่าใช้จ่าย จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลไทย กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 
1. ให้รับรองการใช้ "บัตรชมพู" หรือ "บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย" เป็นเอกสารหลักชิ้นเดียวสำหรับรับรองสถานะของชาวเมียนมาในไทย และยกเลิกการใช้เอกสาร "สมุดเขียว" หรือ "Certificate of Identity" (CI) เพื่อลดภาระทางเอกสาร
2. ตั้งศูนย์ One-Stop Service เพื่ออำนวยความสะดวกการขึ้นทะเบียนแรงงานข้ามชาติในประเทศไทยตามพื้นที่อุตสาหกรรมและพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีแรงงานข้ามชาติในจำนวนมาก รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียนสำหรับแรงงานและนายจ้างด้วย
3. ให้ร่วมมือกับกระทรวงแรงงานแห่งรัฐบาลพลัดถิ่น National Unity Government of Myanmar หรือ NUG ในการประสานงานระหว่างรัฐและรับรองสิทธิของชาวเมียนมาในไทย
 
นายเซีย จำปาทอง กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ได้รับการประสานจากพี่น้องแรงงานที่มีข้อเสนอต่อคณะ กมธ.การแรงงาน และมีประเด็นที่ต้องการให้กมธ. นำเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณารายละเอียด ในการนำพี่น้องแรงงานข้ามชาติที่อยู่นอกระบบมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ในฐานะที่เป็นรองประธานคณะ กมธ. จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่คณะกรรมการกลั่นกรอง และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องที่พี่น้องแรงงานมายื่นข้อเสนอต่อไป