รองประธานคณะ กมธ.การพลังงาน แถลงผลการพิจารณาเรื่องแนวทางการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดของประเทศไทย
15 มกราคม 2568
วันพุธที่ 15 มกราคม 2568 เวลา 14.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายศุภโชติ ไชยสัจ รองประธานคณะ กมธ.การพลังงาน คนที่สาม เเละคณะ แถลงข่าวผลการพิจารณาเรื่องแนวทางการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดของประเทศไทย โดยในการประชุมคณะ กมธ. ในวันนี้ ได้เชิญหน่วยงาน อาทิ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทั้งนี้ จากการที่ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมาให้ชะลอการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in-Tariff หรือ Fit สำหรับปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง ในรอบเพิ่มเติม ได้แก่ พลังงานลม และ แสงอาทิตย์ จำนวน 3,600 เมกะวัตต์
คณะ กมธ.การพลังงาน เห็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in-Tariff สำหรับปี 2565- 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง ในรอบเพิ่มเติม จำนวน 3,600 เมกะวัตต์ นี้ คือ การประกาศราคารับชื้อที่แพงเกินจริง กระบวนการที่ส่อทุจริต เช่น การไม่เปิดหลักเกณฑ์การให้คะแนน รวมไปถึงการมีวิธีที่ดีกว่าอย่าง Direct PPA ในการเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดของภาครัฐนั้น ก็เกิดขึ้นกับการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรอบแรก จำนวน 5,200 เมกะวัตต์ เช่นกัน และจากข้อมูลที่ คณะ กมธ. ได้รับจากการชี้แจงของหน่วยงานต่าง ๆ เห็นว่ายังมีสิ่งที่รัฐบาลทำได้เพื่อจะหยุดยั้งการรับชื้อไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดในรอบแรก จำนวน 5,200 เมกะวัตต์ เช่นกัน เนื่องจาก ยังมีโครงการที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาไฟฟ้าระหว่างรัฐกับเอกชน ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าประเภท SPP 20 โครงการ และ VSPP อีกจำนวนหนึ่ง โดยในระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดรอบ 5,200 เมกะวัตต์ ระบุไว้อย่างชัดเจน เช่น ในข้อ 39 ว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) สามารถยกเลิกการรับซื้อได้ หากมีมติออกมาจาก คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตั้งถามถึงการแนวทางการปฏิบัติ ของภาครัฐที่ควรจะทำอย่างเท่าเทียมคณะ กมธ.การพลังงาน จึงมีมติส่งหนังสือถึงคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อเสนอแนะให้มีการชะลอการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สำหรับโครงการที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญากับทางภาครัฐ ในรอบ 5,200 เมกะวัตต์เช่นกัน เพื่อให้สอดคล้องกับมติของ กพช. เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ที่สั่งให้มีการชะลอการเซ็นสัญญาไฟฟ้ารับซื้อ
ไฟฟ้า สำหรับโครงการในรอบเพิ่มเติม จำนวน 3,600 เมกะวัตต์ เรียบร้อยเเล้ว