สส.จุลพงศ์ อยู่เกษ แถลงข่าวเรียกร้องให้รองปลัดกระทรวงมหาดไทยที่ดูแลกรมที่ดินในขณะนี้ ให้รีบดำเนินการเพิกถอนนิติกรรมการโอนขายที่ดินระหว่างมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยฯ ในฐานะผู้จัดการมรดกของยายเนื่อม ชำนาญชาติศักดา กับกลุ่มบริษัทอัลไพน์ เพื่อให้ที่ดินที่เป็นที่ธรณีสงฆ์กลับมาเป็นของวัดตามพินัยกรรมของคุณยาย
17 มกราคม 2568
วันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2568 เวลา 10.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.พรรคประชาชน แถลงข่าว เตือนรองปลัดกระทรวงมหาดไทยที่กำกับดูแลกรมที่ดินในขณะนี้ ให้รีบดำเนินการเพิกถอนนิติกรรมการโอนขายที่ดินระหว่างมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยฯ ในฐานะผู้จัดการมรดกของยายเนื่อม ชำนาญชาติศักดา กับกลุ่มบริษัทอัลไพน์โดยเร็ว หากไม่รีบดำเนินการรองปลัดฯ และปลัดกระทรวงมหาดไทยอาจสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดตามมาตรา 49-54 เรื่องการเพิกถอนคำสั่งทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง พ.ศ. 2539 ที่บัญญัติให้ต้องเพิกถอนคำสั่งที่ออกมาเพื่อเพราะมีการชักจูงโดยการให้ประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพราะคำสั่งของอดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทยนั้นทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยชัดเจนแล้วว่าเป็นคำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ ในการที่ต้องดำเนินการเพิกถอนคำสั่งที่มิชอบนี้ ตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง พ.ศ.2539 แล้ว รองปลัดกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ต้องยกเลิกคำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมายได้เองโดยไม่ต้องมีผู้ร้องหรือไม่ต้องรอให้รัฐมนตรีสั่งการแต่อย่างใด จึงขอเตือนรองปลัดกระทรวงมหาดไทยที่ดูแลกรมที่ดินให้รีบเพิกถอนคำสั่งของอดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทยที่ไปยกเลิกคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่เพิกถอนการจดทะเบียนนิติกรรมการโอนที่ดินระหว่างมูลนิธิมหามงกุฎราชวิทยาลัยฯ ในฐานะผู้จัดการมรดกของคุณยายเนื่อมให้กับกลุ่มบริษัทอัลไพน์ เพื่อให้ที่ดินที่เป็นที่ธรณีสงฆ์ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาให้กลับมาเป็นของวัดธรรมิการามวรวิหารตามพินัยกรรมของคุณยายเนื่อม หากไม่รีบดำเนินการ ขอให้ดูคดีของอดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นตัวอย่าง และหากยังจะละเลยไม่ปฏิบัติดามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง พ.ศ. 2539 รองปลัดฯ อาจเจอข้อกล่าวหาดังเช่นอดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทยที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบลงโทษจำคุก 2 ปี และหากภายใน 2-3 เดือนนับจากวันนี้หากข้าราชการประจำไม่ขยับคือไม่ทำอะไรเลยตนจะตั้งกระทู้ถาม รมว. มหาดไทยว่าได้สั่งการให้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยปฏิบัติตามกฎหมาย กรณีที่ดินอัลไพน์อย่างไร มีการติดตามผลอย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ กรณีที่ดินอัลไพน์จะใช้วิธีตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเหมือนกรณีเขากระโดงไม่ได้ และอธิบดีกรมที่ดินก็ได้เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไว้เมื่อปลายปีที่ว่ากรณีเขากระโดงไม่เหมือนกรณีที่ดินอัลไพน์ เพราะกรณีที่ดินอัลไพน์เป็นเรื่องการเพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดิน แต่กรณีเขากระโดงเป็นการออกโฉนดและเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ และตามข่าวเมื่อวานนี้ที่ รมว. มหาดไทยได้ออกมายอมรับว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช. มหาดไทย ได้เคยลงนามให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งคือเห็นชอบกับการเพิกถอนการจดทะเบียนนิติกรรมการโอนขายที่ดินระหว่างมูลนิธิมหามงกุฎราชวิทยาลัยฯ ในฐานะผู้จัดการมรดกของคุณยายเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ให้กับกลุ่มบริษัทอัลไพน์ในฐานะผู้ซื้อ โดยในบันทึกของกระทรวงมหาดไทยที่เสนอต่ออดีต รมช.มหาดไทย ได้มีการอ้างถึงความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ธรณีสงฆ์จึงโอนขายเชิงพาณิชย์ไม่ได้ และอดีต รมช.มหาดไทยได้ลงนามไปแล้วตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 และเมื่อวานนี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในการพิจารณาของรองปลัดกระทรวงมหาดไทยคนปัจจุบันที่กำกับดูแลกรมที่ดิน เรื่องนี้มีการลงนามตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่ถึงขณะนี้รองปลัดฯ ยังไม่ออกคำสั่งให้มีการเพิกถอนการจดทะเบียนนิติกรรมการโอนที่ดินให้กลุ่มบริษัทอัลไพน์ ทั้งที่ศาลอุทธรณ์คดีอาญาทุจริตได้วินิจฉัยในคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วในปี 2562 ว่าคำสั่งของอดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทยที่ยกเลิกคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินดังกล่าวเป็นคำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมายและเอื้อประโยชน์ตอบแทนที่ไม่ใช่การเงิน หากรองปลัดฯ คนปัจจุบันยังไม่รีบดำเนินการตามที่อดีต รมช.มหาดไทยได้ลงนามสั่งการไว้ ท่านกำลังสุ่มเสียงต่อการกระทำผิด จึงขอเตือนรองปลัดกระทรวงมหาดไทยที่ดูแลกรมที่ดินในขณะนี้อีกครั้งว่า ต้องรีบดำเนินการเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ที่ดินที่เป็นที่ธรณีสงฆ์กลับมาเป็นของวัดธรรมิการามวรวิหารตามพินัยกรรมของคุณยายเนื่อม