ผู้นำฝ่ายค้านฯ รับหนังสือจากกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งเพื่อขอให้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหารถเครนน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ปัญหาการจราจรติดขัดในท่าเรือแหลมฉบัง และปัญหาทุนจีนเทาลักลอบนำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐานทำลายธุรกิจของไทย
23 มกราคม 2568
วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม 2568 เวลา 11.30 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ.การคมนาคม รับหนังสือจาก นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และคณะตัวแทนจากสมาคมรถบรรทุกแหลมฉบัง สมาคมผู้ประกอบการโลจิสติกส์ขนส่งภาคใต้ และสมาคมรถเครน ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากประกาศของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ทั้งเรื่อง พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ 2535 แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 2 พ.ศ. 2549 และ พ.ร.บ.ขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 เกี่ยวกับความผิดฐานใช้รถยนต์บรรทุกเกินอัตรา และปัจจุบัน จากประกาศคำสั่งของสำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ทำให้การปฏิบัติงานและการทำธุรกิจทำได้ยากขึ้น เพราะเมื่อน้ำหนักเกิน รถเครนจะถูกจับและถูกดำเนินคดีขั้นรุนแรง และถูกยึดรถ ทำให้เกิดปัญหากับผู้ประกอบการรถเครน ซึ่งมีจำนวนกว่า 10,000 คันทั่วประเทศ รวมถึงเป็นผู้ประกอบการรายย่อย ไม่สามารถประกอบธุรกิจได้โดยสุจริต
ทั้งนี้ รถเครน เป็นรถขนาดใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศโดยการขออนุญาตผ่านหน่วยงานราชการที่ถูกต้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กรมการขนส่งทางบก และกรมทางหลวง ซึ่งเมื่อนำมาใช้ปฏิบัติงานจริงก็เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งน้ำหนักที่เกินไม่ใช่เป็นเพราะน้ำหนักที่บรรทุก แต่เป็นที่น้ำหนักของตัวเครนซึ่งเป็นเครื่องจักรกลที่ใช้ทุ่นแรงเป็นเครื่องมือขนาดใหญ่ซึ่งใช้ในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น ถนนลอยฟ้าท่าเรือ และตึกสูงขนาดใหญ่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีประเด็นปัญหาการจราจรติดขัดในท่าเรือแหลมฉบัง ทำให้ผู้ประกอบการรถบรรทุกไม่สามารถนำรถออกมาใช้หมุนเวียนขนส่งรอบต่อไปได้ ซึ่งในแต่ละครั้งที่นำรถเข้าไปในท่าเรือแหลมฉบังต้องใช้ระยะเวลาหลายชั่วโมง เกิดปัญหาความเสียหายด้านการใช้พลังงานน้ำมันอย่างร้ายแรง ปัญหาดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ไข เป็นปัญหาเรื้อรังมากว่า 10 ปี ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการขนส่งทั่วประเทศ อีกทั้งยังได้รับความเดือดร้อนจากนิตินอมินีหรือทุนจีนสีเทาที่เข้ามาประกอบธุรกิจแบบไม่ถูกต้อง โดยการลักลอบนำสินค้าเข้าประเทศและทำกันอย่างจริงจัง โดยใช้ระบบภาษีที่ไม่ต้องจ่ายให้รัฐหรือที่เรียกกันว่าระบบภาษีเหมา ทำให้มีสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ไม่มีมาตรฐานเข้ามาในประเทศ ทำลายธุรกิจที่ประกอบการอย่างถูกต้องอีกด้วย จึงต้องการให้สภาผู้แทนราษฎรช่วยแก้ไขปัญหาเรื้อรังเหล่านี้
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคณะ กมธ. หลายคณะที่จะต้องช่วยกันพิจารณาแก้ไข อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะช่วยผลักดันในการแก้ไขปัญหาต่อไป