• สำหรับผู้พิการ
  • รูปแบบสี ก ก ก
  • ขนาดตัวอักษร -ก ก +ก
  • Language
    • ภาษาไทย
    • English
    • Français
    Facebook youtube

เว็บไซต์อื่นๆ
  • รัฐสภา
  • สภาผู้แทนราษฎร
  • วุฒิสภา
  • สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
  • สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา

logo
  • หน้าหลัก
  • แนะนำองค์กร
  • ข้อมูลประชาคมอาเซียน
    • ประวัติอาเซียน
    • วิสัยทัศน์อาเซียน
    • กฎบัตรอาเซียน
    • สำนักงานเลขาธิการอาเซียน
    • ประธานอาเซียน
    • เลขาธิการอาเซียน
  • รัฐสภาไทยกับอาเซียน
    • การเยือนประเทศสมาชิก
    • การรับรองบุคคลสำคัญ
    • สมัชชารัฐสภาอาเซียน AIPA
    • กลุ่มมิตรภาพ
    • พลเมืองอาเซียน
    • อินไซต์อาเซียนและรอบโลก
      • อินไซต์อาเซียน
      • รอบโลก
  • การวิจัยและพัฒนากฎหมาย
    • งานวิจัยและพัฒนากฏหมาย
    • งานวิชาการ
      • ประชาคมการเมืองและความมั่นคง
      • ประชาคมเศรษฐกิจ
      • ประชาคมสังคมและวัฒนธรรม
    • เอกสารวิชาการอื่นๆ
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
เว็บไซต์อื่นๆ
  • รัฐสภา
  • สภาผู้แทนราษฎร
  • วุฒิสภา
  • สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
  • สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
รายงานการศึกษาดูงาน
ประเทศสมาชิกอาเซียนของรัฐสภา
Loading...
ลำดับที่ 22
คณะกรรมาธิการ/บุคคลสำคัญของฝ่ายนิติบัญญัติ คณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร
หมวดหมู่ - ประเทศสมาชิกอาเซียน
ประเทศ - เวียดนาม
เสาหลักอาเซียน - เศรษฐกิจ
วันเดือนปีที่ศึกษาดูงาน 25 กันยายน 2552 - 27 กันยายน 2552
สมัยของประธาน นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร
ประเด็นศึกษาดูงาน

๑. ด้านอุตสาหกรรมและการลงทุนจากต่างประเทศ
๒. ด้านเกษตรกรรม

สาระสังเขป

     คณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ สภาแห่งชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีนายเหงียน วัน ฮุก ฟุก (Mr. Nguyen Van Phuc) รองประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ สภาแห่งชาติเวียดนาม (Vice-Chairman of the Economic Affairs Committee Assembly–Socialist Republic of Vietnam) ให้การต้อนรับและได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

๑. ด้านอุตสาหกรรมและการลงทุนจากต่างประเทศ

     ที่ผ่านมาเวียดนามเกิดสงครามและมีการปฏิวัติในภาคใต้ของประเทศจึงทำให้เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่มีการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็ว เพราะมีกลยุทธ์ตามทฤษฎีตั้งองค์กรรวม และนโยบายในการปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมที่เรียกว่า “โด่ย เหมย (DOI MOI)” ซึ่งเริ่มต้นเมื่อ พ.ศ. 2529

     และใน พ.ศ. 2530 เวียดนามมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศทำให้สามารถดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งรวมถึงนักลงทุนจากไทยเข้ามาลงทุนในประเทศและทำให้มีแหล่งเงินทุนสำหรับการพัฒนาประเทศจากเดิมที่เคยขาดแคลนเงินทุน กฎหมายส่งเสริมการลงทุนเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุนในธุรกิจได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ มีการอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ ตลอดจนมีมาตรการทางด้านภาษี โดยลดภาษีนำเข้า ร้อยละ ๑๐-๒๕

     นอกจากนี้ เวียดนามยังมีนโยบายเศรษฐกิจระดับเอกชนที่ทำให้มีการลงทุนมากขึ้น โดยเรียนรู้ประสบการณ์จากไทย อีกทั้ง เวียดนามยังมีนโยบายเปิดประเทศ โดยเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน (ASEAN) และมีการลงทุนกับประเทศสมาชิก เช่น ไทย สิงคโปร์ เป็นต้น รวมถึงได้เข้าเป็นสมาชิกความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) และมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ตลอดจนได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) ซึ่งเคยมีเลขาธิการองค์การการค้าโลกเป็นคนไทย จึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเวียดนาม การเปิดประเทศของเวียดนามทำให้มีการส่งออกสินค้าร้อยละ ๗๐ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) แม้ว่าเวียดนามพัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วแต่ยังประสบปัญหาด้านโครงสร้างทางเศรษฐกิจและคุณภาพสินค้า ด้านสาธารณูปโภคที่ยังไม่ดีพอ รวมถึง ปัญหาด้านการจราจรและการบริหารจัดการด้านสภาพแวดล้อม

๒. ด้านเกษตรกรรม

     เวียดนามเป็นประเทศเกษตรกรรมโดยมีเกษตรกรประมาณร้อยละ ๗๐ ของประชากร แต่ในอดีตการผลิตข้าวต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาล ประชาชนจึงไม่สามารถผลิตข้าวได้เองจึงต้องมีการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศเวียดนามมีการปลูกข้าวบริเวณลุ่มแม่น้ำแดงผลิตข้าวได้ไม่แตกต่างจากไทย ขณะที่ภาคกลางของประเทศขาดแคลนข้าวเป็นจำนวนมากจำเป็นต้องซื้อข้าวที่ผลิตจากภาคใต้และลุ่มน้ำโขงของประเทศ ซึ่งแต่ละครอบครัวจะมีสมุดบันทึกเพื่อจดว่าจะรับข้าวและแลกเปลี่ยนข้าวได้จำนวนเท่าใด มีคูปองแลกข้าวและเนื้อสัตว์ ดังนั้น ต่อมารัฐบาลเห็นว่านโยบายแบบเก่าไม่มีประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจจึงปรับเปลี่ยนนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามมีการแบ่งที่ดินให้กับประชาชนทำกินทำให้สามารถผลิตข้าวได้จำนวนมากขึ้น การผลิตข้าวของประชาชนมิใช่เลี้ยงครอบครัวเพียงอย่างเดียว แต่สามารถขายได้ เนื่องจากรัฐบาลให้การช่วยเหลือประชาชนด้านการชลประทาน ส่งผลให้ปี ๒๕๕๒ เวียดนามสามารถส่งออกข้าวไปขายทั่วโลกมากเป็นอันดับสองรองจากไทย โดยมีการส่งออกข้าวได้จำนวน ๖ ล้านตัน ตลาดสำคัญ คือ ทวีปแอฟริกาและทวีปเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เป็นต้น

     ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ สภาแห่งชาติเวียดนาม มีบทบาทในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการลงทุน การชลประทาน การคมนาคมในระยะยาว ตลาดจนนโยบายด้านวัฒนธรรม การพัฒนาเศรษฐกิจในชนบท โดยเฉพาะพัฒนาประชาชนที่อาศัยแถบภูเขา

ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากการศึกษาดูงาน

     ๑. การเดินทางศึกษาดูงานของคณะกรรมาธิการ ทำให้ทราบถึงนโยบายการปฏิรูปเวียดนาม เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศและสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้ลงทุนจากต่างประเทศเข้าไปลงทุน โดยออกกฎหมายส่งเสริมการลงทุนที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ลงทุนต่างชาติ ทำให้มีรายได้ มีแหล่งเงินทุน มีการจ้างแรงงาน และมีรายได้จากภาษีของผู้ลงทุนเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ มีการส่งออกสินค้าสำคัญหลายชนิด อาทิ ข้าว แม้ว่าเวียดนามจะเป็นประเทศที่เคยเกิดสงคราม และมีการปฏิวัติทางภาคใต้มาเป็นเวลาหลายปีก็ตาม แต่สามารถพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าได้

     ๒. คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ สภาแห่งชาติเวียดนามมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนามในโครงการต่าง ๆ ผลักดันให้ประเทศมีการพัฒนาที่ดีขึ้น จึงควรที่จะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคณะกรรมาธิการของทั้งสองประเทศต่อไป

     ๓. เวียดนามเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและต่างประเทศมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก สังเกตจากสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น การแสดงหุ่นกระบอกน้ำที่มีนักท่องเที่ยวเข้าชมเต็มทุกที่นั่ง และล่องเรือชมธรรมชาติอ่าวฮาลองเบย์ เป็นต้น

     ๔. เวียดนามมีปัญหาด้านการจราจรทั้งในกรุงฮานอยและนอกเมือง เนื่องจากประชาชนมีการใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะเดินทางจำนวนมาก อย่างไรก็ดี ผู้ขับรถโดยสารให้คณะกรรมาธิการได้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยขับรถนอกเขตเมืองไม่เกิน ๖๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้ทำให้การเดินทางล่าช้าแต่มีความปลอดภัย ซึ่งไทยควรนำมาปรับใช้ให้ผู้ขับรถมีจิตสำนึก และปฏิบัติตามกฎจราจรที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อลดอุบัติเหตุทางรถยนต์ในปัจจุบันที่มีอัตราสูง

คำค้น  เวียดนาม, การพาณิชย์, ทรัพย์สินทางปัญญา, โด่ย เหมย, DOI MOI, อุตสาหกรรมและการลงทุน, เกษตรกรรม

เสาหลัก เศรษฐกิจ

เอกสารแนบ 1. รายงานการศึกษาดูงานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร



ASEAN Thailand 2019
สมัชชารัฐสภาอาเซียน
The ASEAN Secretariat
Inter-Parliamentary Union
กฎหมายในกลุ่มอาเซียน
ASEAN Thailand 2019
สมัชชารัฐสภาอาเซียน
The ASEAN Secretariat
Inter-Parliamentary Union
กฎหมายในกลุ่มอาเซียน

กลุ่มงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติหน้าที่สำนักงานศูนย์ประชาคมอาเซียนของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

โทร 022425900 ต่อ 7462

facebook   youtube

จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ 1,427,257
(ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565)

Tawdis WCAG 2.0 (Level AA)

คลิกดูสถิติการเข้าชมเว็บไซต์สภาผู้แทนฯ
sitemap แผนผังเว็บไซต์

หน้าหลัก

แนะนำองค์กร

ข้อมูลประชาคมอาเซียน

● ประวัติอาเซียน

● วิสัยทัศน์อาเซียน

● กฎบัตรอาเซียน

● สำนักงานเลขาธิการอาเซียน

● ประธานอาเซียน

● เลขาธิการอาเซียน

รัฐสภาไทยกับอาเซียน

● การเยือนประเทศสมาชิก

● การรับรองบุคคลสำคัญ

● สมัชชารัฐสภาอาเซียน AIPA

● กลุ่มมิตรภาพ

● พลเมืองอาเซียน

● อินไซต์อาเซียนและรอบโลก

○ อินไซต์อาเซียน
○ รอบโลก

การวิจัยและพัฒนากฎหมาย

● งานวิจัยและพัฒนากฏหมาย

● งานวิชาการ

○ ประชาคมการเมืองและความมั่นคง
○ ประชาคมเศรษฐกิจ
○ ประชาคมสังคมและวัฒนธรรม

● เอกสารวิชาการอื่นๆ

FAQ

ติดต่อเรา

ภาพข่าวกิจกรรม

ข่าวสารอาเซียน

งานวิจัยและพัฒนากฎหมาย

กฎหมายเปรียบเทียบ

● รัฐธรรมนูญของประเทศสมาชิกอาเซียน

● การเสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาคในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

● ความร่วมมือในภูมิภาคในเรื่องการต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์

● ความร่วมมือทางอาญาในภูมิภาคอาเซียนในเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน

● พันธกรณีตาม ASEAN Economic Economy Blueprint 2025

● การศึกษาเปรียบเทียบกลไกระงับข้อพิพาทการลงทุนหรือกฎหมายว่าด้วยอนุญาโตตุลาการ

● การศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว

● กฎหมายว่าด้วยการแข่งขันที่เป็นธรรมทางการค้า

● ทรัพย์สินทางปัญญา

● การยอมรับและการบังคับคดีตามคาพิพากษาของศาลต่างประเทศ

● การอำนวยความสะดวกทางการค้า

● พาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ของอาเซียน

● มาตรฐานแรงงานในอาเซียน

● กฎหมายตามพันธกรณีความร่วมมือของประชาคมอาเซียนด้านประชาคมสังคมและวัฒนธรรม การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน

● การยอมรับและการบังคับคดีให้เป็นไปตามคาพิพากษาของศาลต่างประเทศในคดีแพ่งหรือพาณิชย์

● การรับรองความถูกต้องแท้จริงของเอกสารราชการ