• สำหรับผู้พิการ
  • รูปแบบสี ก ก ก
  • ขนาดตัวอักษร -ก ก +ก
  • Language
    • ภาษาไทย
    • English
    • Français
    Facebook youtube

เว็บไซต์อื่นๆ
  • รัฐสภา
  • สภาผู้แทนราษฎร
  • วุฒิสภา
  • สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
  • สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา

logo
  • หน้าหลัก
  • แนะนำองค์กร
  • ข้อมูลประชาคมอาเซียน
    • ประวัติอาเซียน
    • วิสัยทัศน์อาเซียน
    • กฎบัตรอาเซียน
    • สำนักงานเลขาธิการอาเซียน
    • ประธานอาเซียน
    • เลขาธิการอาเซียน
  • รัฐสภาไทยกับอาเซียน
    • การเยือนประเทศสมาชิก
    • การรับรองบุคคลสำคัญ
    • สมัชชารัฐสภาอาเซียน AIPA
    • กลุ่มมิตรภาพ
    • พลเมืองอาเซียน
    • อินไซต์อาเซียนและรอบโลก
      • อินไซต์อาเซียน
      • รอบโลก
  • การวิจัยและพัฒนากฎหมาย
    • งานวิจัยและพัฒนากฏหมาย
    • งานวิชาการ
      • ประชาคมการเมืองและความมั่นคง
      • ประชาคมเศรษฐกิจ
      • ประชาคมสังคมและวัฒนธรรม
    • เอกสารวิชาการอื่นๆ
  • FAQ
  • ติดต่อเรา
เว็บไซต์อื่นๆ
  • รัฐสภา
  • สภาผู้แทนราษฎร
  • วุฒิสภา
  • สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
  • สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
กระทู้ถามเกี่ยวกับ
ตราสารอาเซียนของรัฐสภา
Loading...

การเปิดและการปิดภาคเรียนให้สอดคล้องกับประเทศในกลุ่มอาเซียน

กระทู้ถามที่ 32/2555 วุฒิสภา
วันที่เสนอ 20 กุมภาพันธ์ 2555
สมัยคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ชื่อผู้ตั้งกระทู้ถาม นายตวง อันทะไชย สมาชิกวุฒิสภาแบบสรรหา
ชื่อผู้ถูกตั้งกระทู้ถาม นายกรัฐมนตรี (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)
ชื่อผู้ตอบกระทู้ถาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช)
ประเภทกระทู้ถาม กระทู้ถามที่ตอบในที่ประชุม
สถานภาพกระทู้ถาม กระทู้ถามที่ตอบในราชกิจจานุเบกษา

ในการประชุมวุฒิสภา  ครั้งที่ 24 (เป็นพิเศษ) สมัยสามัญทั่วไป


วันอังคารที่  12  พฤศจิกายน   2556
 

สรุปสาระสำคัญของกระทู้ถาม

ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีมติเอกฉันท์เห็นชอบให้มีการเลื่อนการเปิดและการปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัยให้มีความเป็นสากลสอดคล้องกับประเทศสมาชิกอาเซียนอีก 9 ประเทศ และสอดรับกับการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ซึ่งจะมีประโยชน์ในการจัดกิจกรรมทางการศึกษา การแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างกัน การแลกเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูง รวมไปถึงการจบการศึกษา อย่างไรก็ดีการเปิดและการปิดภาคเรียนของประเทศไทยในปัจจุบันนั้นเป็นไปตามสภาวะภูมิอากาศของประเทศ ดังนั้น การเลื่อนการเปิดและการปิดภาคเรียนจึงอาจส่งผลกระทบต่อนักเรียน นักศึกษา และประเทศไทยในหลายด้าน อาทิ ด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม วิถีชีวิต และการท่องเที่ยว เช่น ประเพณีสงกรานต์ สมควรที่จะต้องมีการศึกษาวิจัยถึงผลดีผลเสียของการปรับเปลี่ยนช่วงวันเปิดปิดภาคเรียน รวมถึงควรมีการเตรียมความพร้อมให้กับสถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย ผู้ตั้งกระทู้ถามขอทราบว่า
          1. รัฐบาลมีนโยบายเกี่ยวกับการเปิดปิดภาคเรียนให้สอดคล้องกับประเทศในกลุ่มอาเซียนอย่างไร และได้มีการเตรียมความพร้อมให้กับหน่วยงานและสถานศึกษาในทุกระดับหรือไม่ อย่างไร
          2. ประเทศไทยจะยืนยันไม่เปิดภาคเรียนให้สอดคล้องกับประเทศในกลุ่มอาเซียนได้หรือไม่ หากการปรับเปลี่ยนช่วงวันเปิดปิดภาคเรียนไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยโดยรวมอย่างชัดเจน
          3. รัฐบาลมีแนวทางในการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับประชาคมอาเซียนทั้งรายวิชาหรือหลักสูตรบางหลักสูตรตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานไปจนถึงระดับอุดมศึกษาหรือไม่ อย่างไร

สรุปสาระสำคัญของคำตอบกระทู้ถาม

        คำตอบข้อ 1 รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดนโยบายและเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  ซึ่งการเปิดและปิดภาคเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ปี 2549 ได้กำหนดการเปิดและปิดภาคเรียนไว้ดังนี้ ภาคเรียนที่ 1 เปิดวันที่ 16 พฤษภาคมและปิดวันที่ 11 ตุลาคม  ส่วนภาคเรียนที่ 2 เปิดวันที่ 1 พฤศจิกายน และปิดวันที่ 1 เมษายน
        เรื่องการเปิดภาคเรียนนี้ ได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบซึ่งเดิมนั้นได้เลื่อนการเปิดภาคเรียนของภาคแรกจากวันที่ 16 พฤษภาคม เป็นวันที่ 10 มิถุนายน ในระหว่างรอที่จะแก้ไขระเบียบนั้นได้มีการเปิดให้วิพากษ์วิจารณ์รับฟังความคิดเห็น และต่อมาได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมของกระทรวงศึกษาธิการเพื่อพิจารณา
        ที่ประชุมจึงมีมติให้เปิดและปิดภาคเรียนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)  ไว้ตามระเบียบเดิมเนื่องจากพิจารณาถึงความสอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศ การใช้พลังงาน และประเพณีต่างๆ ในช่วงดังกล่าว เป็นต้น
        ส่วนของระดับอาชีวศึกษานั้น สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) จะได้เข้าสู่ตลาดแรงงานตามความต้องการของตลาดแรงงาน ในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม เนื่องจากในช่วงนี้มีความต้องการแรงงานสูงมากโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว การบริการ การเกษตรกรรม ฯลฯ  
        ส่วนในระดับอุดมศึกษานั้นมีการเลื่อนการเปิดและปิดใหม่โดยปีการศึกษาในเทอมแรกนั้น  เดิมเปิดเดือนมิถุนายนจึงได้เลื่อนไปเปิดกลางเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ เพื่อให้เด็กที่จบการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 6 มีเวลาเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยประมาณ 4 เดือนครึ่ง รวมทั้งได้มีเวลาเตรียมตัวเรียนในมหาวิทยาลัยต่างๆ

        คำตอบข้อ 2 เนื่องจากตามกฎบัตรอาเซียนนั้นมิได้มีการกำหนดเรื่องการปรับเปลี่ยนวันเปิดและปิดภาคเรียนไว้เป็นการเฉพาะ ซึ่งให้พิจารณาได้ตามความเหมาะสม ดังนั้น ในส่วนของการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงคงเปิดและปิดภาคเรียนตามเดิม  ส่วนในระดับอุดมศึกษานั้นได้ปรับเปลี่ยนการเปิดและปิดภาคเรียนเพื่อให้สอดคล้องกับนานาประเทศทั่วโลกและประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น โดยได้เลื่อนระยะเวลาการเปิดและปิดภาคเรียนออกมา 2 เดือนครึ่ง  ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการแลกเปลี่ยนบุคลากร นักเรียนและนักศึกษา พัฒนาคุณภาพการศึกษา เพิ่มทักษะนักเรียน นักศึกษา อันจะเป็นการยกระดับการศึกษาของประเทศไทย เพื่อไปสู่การแข่งขันในระดับสากลได้ต่อไป ดังนั้น การเตรียมความพร้อมให้มีทักษะจะทำให้มีความพร้อมที่จะประกอบอาชีพในอนาคต  รวมทั้งช่วยสร้างความกลมกลืนของการศึกษาอันจะส่งผลให้เกิดการลดช่องว่างของความแตกต่างด้านภาษา วัฒนธรรม และพร้อมที่จะก่อให้เกิดความร่วมมือ ในการปรับเวลาเปิดและปิดภาคเรียนให้สอดคล้องกับอาเซียนต่อไป

        คำตอบข้อ 3 รัฐบาลมีแนวทางในการปรับหลักสูตรการเรียน การสอน ให้สอดคล้องกับประชาคมอาเซียน โดยปรับทั้งเป็นรายวิชา หรือปรับในเรื่องหลักสูตรบางหลักสูตรตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานไปจนถึงระดับอุดมศึกษา และให้มีการบูรณาการในรายวิชาพื้นฐานโดยให้จัดทำเป็นรายวิชาเพิ่มเติม จัดทำกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จัดทำกิจกรรมเสริมหลักสูตร กิจกรรมการเรียนรู้ เป็นต้น  รวมทั้งมีการดำเนินการตามโครงการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน (Spirit of ASEAN) เพื่อให้สอดคล้องกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 13 ปี 2550 ได้ตกลงร่วมกันว่าจะเลื่อนการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนจากปี 2563 มาเป็นปี 2558 และได้กำหนดกิจกรรมต่างๆ สำหรับประเทศไทยนั้น ในปี 2555 กำหนดว่าจะพัฒนาโรงเรียนต้นแบบของการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน จำนวน 68 โรงเรียน ใน 3 รูปแบบ คือ
        1. Sister School คือ โรงเรียนคู่แฝดหรือคู่พัฒนา 30 โรงเรียน
        2. Buffer School คือ โรงเรียนที่อยู่ชายขอบของประเทศหรือโรงเรียนรอยตะเข็บ 24 โรงเรียน
        3. ASEAN Focus School คือ โรงเรียนที่เน้นทางด้านอาเซียน 14 โรงเรียน
        โดยได้เริ่มตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้น และขยายเครือข่ายไปอีก 9 แห่ง ต่อมาในปี 2554  ได้มีการพัฒนาโรงเรียนคู่พัฒนาไทยกับอินโดนีเซียอีกจำนวน 23 โรงเรียน ในปี 2555 ขยายโรงเรียนพัฒนาโรงเรียนต้นแบบเพิ่มขึ้นอีก 163 โรงเรียน ใน 163 เขตพื้นที่การศึกษาเพื่อพัฒนาให้เป็น ASEAN Learning School และได้ขยายจนครบทุกเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 225 เขตแล้ว ส่วนในระดับอุดมศึกษานั้น ได้ส่งเสริมความสามารถทางด้านทักษะในเรื่องของ ICT การดำรงชีวิตในสังคมพหุวัฒนธรรม รวมไปถึงการพัฒนาความเป็นผู้นำ การทำงานเป็นทีม การคิดวิเคราะห์ เป็นต้น และประเทศไทยได้มีหลักสูตรนานาชาติทั้งสิ้น 981 หลักสูตร มีสถาบันอุดมศึกษาเพื่อจะรองรับการนักศึกษาไทยและนักศึกษาจากต่างชาติ เช่น วิทยาศาสตร์สุขภาพ เวชศาสตร์เขตร้อน เกษตรเขตร้อน  เทคโนโลยีชีวภาพ การท่องเที่ยว การโรงแรม และการบริหาร เป็นต้น

เอกสารต้นเรื่อง 1. สรุปสาระสำคัญ



ASEAN Thailand 2019
สมัชชารัฐสภาอาเซียน
The ASEAN Secretariat
Inter-Parliamentary Union
กฎหมายในกลุ่มอาเซียน
ASEAN Thailand 2019
สมัชชารัฐสภาอาเซียน
The ASEAN Secretariat
Inter-Parliamentary Union
กฎหมายในกลุ่มอาเซียน

กลุ่มงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติหน้าที่สำนักงานศูนย์ประชาคมอาเซียนของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

โทร 022425900 ต่อ 7462

facebook   youtube

จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ 1,287,325
(ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565)

Tawdis WCAG 2.0 (Level AA)

คลิกดูสถิติการเข้าชมเว็บไซต์สภาผู้แทนฯ
sitemap แผนผังเว็บไซต์

หน้าหลัก

แนะนำองค์กร

ข้อมูลประชาคมอาเซียน

● ประวัติอาเซียน

● วิสัยทัศน์อาเซียน

● กฎบัตรอาเซียน

● สำนักงานเลขาธิการอาเซียน

● ประธานอาเซียน

● เลขาธิการอาเซียน

รัฐสภาไทยกับอาเซียน

● การเยือนประเทศสมาชิก

● การรับรองบุคคลสำคัญ

● สมัชชารัฐสภาอาเซียน AIPA

● กลุ่มมิตรภาพ

● พลเมืองอาเซียน

● อินไซต์อาเซียนและรอบโลก

○ อินไซต์อาเซียน
○ รอบโลก

การวิจัยและพัฒนากฎหมาย

● งานวิจัยและพัฒนากฏหมาย

● งานวิชาการ

○ ประชาคมการเมืองและความมั่นคง
○ ประชาคมเศรษฐกิจ
○ ประชาคมสังคมและวัฒนธรรม

● เอกสารวิชาการอื่นๆ

FAQ

ติดต่อเรา

ภาพข่าวกิจกรรม

ข่าวสารอาเซียน

งานวิจัยและพัฒนากฎหมาย

กฎหมายเปรียบเทียบ

● รัฐธรรมนูญของประเทศสมาชิกอาเซียน

● การเสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาคในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

● ความร่วมมือในภูมิภาคในเรื่องการต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์

● ความร่วมมือทางอาญาในภูมิภาคอาเซียนในเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน

● พันธกรณีตาม ASEAN Economic Economy Blueprint 2025

● การศึกษาเปรียบเทียบกลไกระงับข้อพิพาทการลงทุนหรือกฎหมายว่าด้วยอนุญาโตตุลาการ

● การศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว

● กฎหมายว่าด้วยการแข่งขันที่เป็นธรรมทางการค้า

● ทรัพย์สินทางปัญญา

● การยอมรับและการบังคับคดีตามคาพิพากษาของศาลต่างประเทศ

● การอำนวยความสะดวกทางการค้า

● พาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ของอาเซียน

● มาตรฐานแรงงานในอาเซียน

● กฎหมายตามพันธกรณีความร่วมมือของประชาคมอาเซียนด้านประชาคมสังคมและวัฒนธรรม การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน

● การยอมรับและการบังคับคดีให้เป็นไปตามคาพิพากษาของศาลต่างประเทศในคดีแพ่งหรือพาณิชย์

● การรับรองความถูกต้องแท้จริงของเอกสารราชการ