ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง นายเปาโล ดีโอนีซี (H.E. Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย
วันพุธที่ 8 มีนาคม 2566 เวลา 09.00 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 205 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง นายเปาโล ดีโอนีซี (H.E. Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย เนื่องในโอกาสเข้ารับหน้าที่และหารือข้อราชการเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาไทยกับสาธารณรัฐอิตาลี ให้กระชับแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยมี นายราเมศ รัตนะเชวง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ที่ปรึกษาประธานรัฐสภา นายวิวัฒน์ มุ่งการดี ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายอาพล นันทขว้าง ผู้อำนวยการสำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมให้การรับรอง
โอกาสนี้ นายชวน หลีกภัย กล่าวต้อนรับด้วยความยินดี พร้อมกล่าวชื่นชมความรู้ความสามารถ และบทบาทการทำงานของเอกอัครราชทูตฯ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยกับอิตาลี ให้เกิดผลสำเร็จยิ่งขึ้น พร้อมทั้งได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ด้านรัฐสภาซึ่งมีกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาฯ ของทั้งสองฝ่ายเป็นกลไกสำคัญ ในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ นายชวน หลีกภัยได้กล่าวถึงเมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้พบหารือกับนาย Romano Prodi นายกรัฐมนตรีอิตาลีขณะนั้น และได้ฝากความระลึกถึงไปยังนาง Giorgia Meloni นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอิตาลี รวมทั้งประธานวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรของอิตาลี
นอกจากนี้ ยังได้ฝากความระลึกถึงไปยังนาย Lorenzo Galanti อดีตเอกอัคราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทยที่เพิ่งหมดวาระลง โดยประธานรัฐสภาและอดีตเอกอัครราชทูตฯ ได้พบกันหลายครั้งในงานวันศิลป์ พีระศรี ที่ประธานรัฐสภาได้เข้าร่วมงานวันศิลป์ พีระศรี ในฐานะประธานในพิธีเป็นประจำทุกปี มาเป็นเวลากว่า 30 ปี
ด้านเอกอัครราชทูตฯ กล่าวขอบคุณประธานรัฐสภาที่ให้เกียรติตนได้มาเยี่ยมคารวะในวันนี้ พร้อมกล่าวชื่นชมประธานรัฐสภาที่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ นายกรัฐมนตรี และประธานรัฐสภา 2 สมัย รวมถึงรัฐมนตรีหลายกระทรวง และยังได้กล่าวชื่นชมสภาผู้แทนราษฎรของไทยที่ได้มีการดำเนินงานมาครบรอบ 4 ปี มีผลงานที่บรรลุความสำเร็จมากมาย โดยภายหลังสถานการณ์ COVID -19 อิตาลีมีนโยบายหันไปหา Indo Pacific มากขึ้น ไทยและอิตาลีสามารถเกื้อกูลด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างกัน โดยไทยเป็นประตูสู่อาเซียนให้กับอิตาลี ส่วนอิตาลีเป็นประตูสู่ยุโรปให้กับไทย ในส่วนความสัมพันธ์ด้านรัฐสภา กลุ่มมิตรภาพอิตาลี-ไทย อยู่ในระหว่างการเลือกตั้งสมาชิกฯ โดย ประธานรัฐสภาอิตาลีได้ฝากความระลึกถึงมายังประธานรัฐสภา
ทั้งนี้ ในปี 2566 เป็นวาระครบรอบ 155 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-อิตาลี วาระครบรอบ 80 ปี แห่งการก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร และ 100 ปี ที่ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้ย้ายมาพำนักที่ประเทศไทย ซึ่งประธานรัฐสภามีความผูกพันกับมหาวิทยาลัยศิลปากร และได้เข้าร่วมงานวันศิลป์ พีระศรี เป็นประจำทุกปี
เครดิต : ข่าวโดยกลุ่มงานข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร