ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเรื่อง “ปัญหาอุปสรรคการบูรณาการด้านการบริหารงบประมาณและขั้นตอนการกระจายอำนาจ เพื่อการขับเคลื่อนประเทศ”
วันพุธที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๑.๑๐ นาฬิกา ณ โรงแรมมิราเคิล
แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร
เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเรื่อง “ปัญหาอุปสรรคการบูรณาการ
ด้านการบริหารงบประมาณและขั้นตอนการกระจายอำนาจ เพื่อการขับเคลื่อนประเทศ”
โดยมี นายไชยา พรหมา ประธานคณะ กมธ.ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหาร
งบประมาณ กล่าวรายงาน
ในการนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร
ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “บทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติกับภารกิจสนับสนุน
กลไกภาครัฐในการขับเคลื่อนประเทศ” โดยกล่าวถึงการปกครองประเทศ
ในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีอำนาจอธิปไตยเป็นอำนาจสูงสุดในการปกครอง
ประเทศ ประกอบด้วย อำนาจนิติบัญญัติ คือ อำนาจในการออกกฎหมาย
อำนาจบริหาร คือ อำนาจในการบริหารประเทศ และอำนาจตุลาการ คือ อำนาจ
ในการพิจารณาตัดสินพิพากษา โดยพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุข
ทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
ซึ่งในมาตรา ๓ วรรค ๒ ได้กำหนดให้รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ
และหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย
และหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของ
ประชาชน พร้อมทั้งได้กล่าวถึงบทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ
รวมถึงองค์กรอิสระ ซึ่งมีความผูกพัน และมีสื่อมวลชนที่มีความเป็นอิสระ
ในการตรวจสอบการทำหน้าที่ของฝ่ายต่าง ๆ แต่ส่วนสำคัญที่สุดคือประชาชน
ที่จะต้องเลือกผู้แทนเข้ามาทำหน้าที่
นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงพัฒนาการทางสังคมและการเมืองของไทย
ที่มีความไม่ชอบธรรมและการซื้อเสียงซึ่งถือเป็นการทำลายประเทศมากขึ้น
จึงฝากถึงผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่านให้ยึดหลักธรรมาภิบาล หลักนิติธรรม หลักความเกรงใจ
ในการปฏิบัติหน้าที่ และหัวใจของบ้านเมืองในวันนี้ คือ การยึดถือหลักความซื่อสัตย์
สุจริต และการปลูกฝังเยาวชนให้เป็นคนดี โดยส่งเสริมการสร้างคนดีควบคู่
ไปกับหลักการที่ดี และยึดแนวทางพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ ๙ มาเป็นแนวปฏิบัติดังพระบรมราโชวาทเมื่อวันที่ ๕ ธ.ค. ๕๒
ที่ว่า “ชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง แล้วตั้งจิต
ตั้งใจให้เที่ยงตรง หนักแน่น ที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด” และ
พระบรมราโชวาทเมื่อวันที่ ๕ ธ.ค. ๕๓ ที่ว่า “คนไทยทุกหมู่เหล่าควรทำ
ความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง แล้วตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดี
ที่สุด มีความไม่ประมาทและมีความมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ...”
จึงขอให้ทุกท่านตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดและให้ความสำคัญ
กับการเป็นคนดีและสร้างคนดี เพราะคนดีคือหัวใจของบ้านเมืองที่จะขับเคลื่อนและ
พัฒนาประเทศชาติให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป ซึ่งการจัดสัมมนาดังกล่าวคณะ กมธ.
ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณจัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อส่งเสริมให้หน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีความรู้ ความเข้าใจ
ในกระบวนการด้านการบริหารงบประมาณในฐานะหน่วยรับงบประมาณ
อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล รวมทั้งสร้างความตระหนักรู้ให้กับ
บุคลากรหน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในบริบทการเปลี่ยนแปลง
ของกฎหมาย ตลอดจนเพื่อให้มีการแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนเรียนรู้
เกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคในกระบวนการด้านงบประมาณกับขั้นตอน
การกระจายอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกัน