ประธานรัฐสภา มอบเงินช่วยเหลือพระสงฆ์และประชาชนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา เนื่องจากประสบภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2565 เวลา 14.30 นาฬิกา ณ ห้องกระจก บริเวณด้านหน้าห้องรับรองพิเศษ ชั้น 2 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบเงินช่วยเหลือพระสงฆ์และประชาชนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา เนื่องจากประสบภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ โดยมี นางโกเลนเน อัปปุหามิลาเค จมินทะ อิโนกา โกโลนเน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนรับมอบ ในการนี้ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร และกรรมการมหาเถรสมาคม ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระพรหมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคาราชวรวิหารและกรรมการมหาเถรสมาคม พระธรรมโพธิวงศ์ หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย - เนปาล และเจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ และนายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ประธานคณะ กมธ.การต่างประเทศ วุฒิสภา นายสมศักดิ์ จิตติพลังศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัยโจ เดนกิอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นางสุภาพรรณ พิชัยรณรงค์สงคราม ประธานกรรมการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด และกลุ่มบริษัท สุภัทรา จำกัด นายวิวัฒน์ มุ่งการดี และ นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร นายณัฐกานต์ ชูชนะ เลขานุการคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร น.ส.สตีจิตร ไตรพิบูลย์สุข รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นางจงเดือน สุทธิรัตน์ ที่ปรึกษาด้านระบบงานนิติบัญญัติ ร่วมเป็นเกียรติ
ในการนี้ นายชวน หลีกภัย กล่าวว่า ในช่วงเวลานี้ได้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นที่ศรีลังกาและมีปัญหากระทบไปถึงประชาชน ซึ่งศรีลังกานั้นเป็นประเทศเดียวในโลกที่ไทยมีความสัมพันธ์มาอย่างยาวนานในยุคโบราณตั้งแต่สมัยลังกาวงศ์ มาจนถึงสยามวงศ์ในสมัยรัตนโกสินทร์ กล่าวได้ว่าเป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดด้านศาสนาพุทธมากที่สุด และเมื่อศรีลังกาประสบภาวะวิกฤต ส่งผลกระทบต่อประชาชน รวมทั้งวัดและพระสงฆ์ซึ่งเป็นที่พึ่งของประชาชน ตนในฐานะกัลยาณมิตรจึงได้ปรารภกับเพื่อนนักการเมืองทั้งฝั่งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ถึงแนวทางในการให้ความช่วยเหลือศรีลังกา ตลอดจนได้ปรารภกับเพื่อนและบุคคลที่รู้จักที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ จนกระทั่งสามารถรวบรวมเงินได้ 7 แสนบาท จึงได้ประสานไปยังเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย เพื่อเป็นผู้แทนรับมอบเงินดังกล่าว และเมื่อทางฝ่ายสงฆ์ทราบเรื่องจึงได้มาเข้าร่วมพิธีมอบเงินในวันนี้ ซึ่งนับว่าเป็นสิริมงคลยิ่ง ทั้งนี้ ส.ส.บางส่วนติดภารกิจที่ต่างจังหวัด จึงไม่ได้มาร่วมมอบเงินในวันนี้ได้ โดยเงินช่วยเหลือที่นำมามอบนั้นมาจากผู้ที่นับถือทั้งศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเงินที่มอบในวันนี้จะไม่ใช่เงินจำนวนมาก แต่เป็นเรื่องความรู้สึกของกัลยาณมิตรที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ จึงขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ร่วมมอบเงินช่วยเหลือมา ณ โอกาสนี้
สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์และเหตุการณ์ต่าง ๆ ของโลกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องภัยพิบัติการระบาดของโรคโควิด-19 ภัยสงคราม และภัยด้านเศรษฐกิจ ที่เกิดทับถมมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เพื่อนร่วมโลกของเรา ไม่ว่าจะชาติหรือศาสนาใดก็ตาม ได้รับผลกระทบ จึงรู้สึกปลื้มใจที่ประธานรัฐสภาและผู้ร่วมบริจาคได้ให้ความสำคัญและให้ความอนุเคราะห์ในครั้งนี้ โดยเป็นการแสดงออกถึงน้ำใจอันประเสริฐและงดงามต่อเพื่อนร่วมชาติของเรา ซึ่งแม้ว่าศรีลังกาจะเป็นประเทศที่มีความเกี่ยวเนื่องกับไทยในด้านพระพุทธศาสนาก็จริง แต่มีผู้ที่นับถือศาสนาอื่นได้แสดงน้ำใจมาด้วย เช่นเดียวประเทศอื่น ๆ ที่เกิดภัยพิบัติขึ้นและประเทศไทยก็ได้ให้ความช่วยเหลือไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตาม
ด้านนางโกเลนเน อัปปุหามิลาเค จมินทะ อิโนกา โกโลนเน กล่าวขอบคุณในมิตรไมตรีที่ทางรัฐสภามีให้ซึ่งเป็นเสมือนสัญลักษณ์แสดงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับศรีลังกา โดยศรีลังกาและไทยนั้นได้ผ่านประสบการณ์ที่ยากลำบากมาคล้าย ๆ กัน และเชื่อว่าศรีลังกาจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้
โอกาสนี้ นายชวน หลีกภัย ได้ถวายตาลปัตร และย่าม พร้อมเครื่องอัฐบริขารแด่สมเด็จพระมหาธีราจารย์ และคณะ