นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตฯ ที่ให้เกียรติมาเยี่ยมคารวะในวันนี้และยินดีที่ได้พบอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เคยพบกันในงานลอยกระทงของรัฐสภา เมื่อปลายปี 2564 และขอถือโอกาสขอบคุณที่ให้เกียรติมาร่วมงานดังกล่าวพร้อมกับภรรยาและบุตรสาว ทั้งนี้ขอชื่นชมเอกอัครราชทูตฯ ที่ได้พบปะบุคคลสำคัญของไทยหลายท่าน แม้จะดำรงตำแหน่งในประเทศไทยได้ไม่นาน แต่เชื่อมั่นว่าด้วยความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ที่เคยดำรงตำแหน่งสำคัญทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาไทยและฮังการีให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น รวมทั้งประสบความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อพัฒนาความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ เมื่อครั้งที่รองประธานรัฐสภาฮังการี เดินทางมาเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของรัฐสภา ตนได้ขอคำแนะนำเรื่องการบริหารจัดการอาคารรัฐสภาของฮังการี จึงขอถือโอกาสนี้ขอบคุณสำนักงานเลขาธิการรัฐสภาฮังการี ที่ได้ส่งเอกสารคำแนะนำดังกล่าวมาให้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในการบริหารจัดการอาคารรัฐสภาระหว่างไทย-ฮังการี สำหรับในด้านความสัมพันธ์นั้น รัฐสภาไทยได้จัดตั้งกลุ่มมิตรภาพฯ ไทย-ฮังการี ในปี 2537 ซึ่งถือเป็นความสัมพันธ์ระหว่างตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง โดยประเทศไทยกับฮังการีมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนานกว่า 152 ปี นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ประพาสฮังการี ในปี 2440 และในปี 2566 จะครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน จึงเชื่อมั่นว่าเมื่อสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดีขึ้น การแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในระดับต่าง ๆ จะเพิ่มพูนมากขึ้นดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา ในการนี้ ขอชื่นชมประเทศฮังการีที่มีเสถียรภาพด้านการเมือง จึงหวังว่ารัฐสภาไทยจะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องดังกล่าว ตลอดจนขอขอบคุณรัฐบาลฮังการีที่สนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนและนักศึกษาไทย และเล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษา จึงหวังว่าฮังการีจะยังคงสานต่อแนวทางในการสนับสนุนการศึกษาเช่นนี้ต่อไปในอนาคต รวมทั้งมีความยินดีที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่ายมีพัฒนาการมากขึ้น โดยประเทศไทยพร้อมเป็นประตูสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่ฮังการีเป็นประตูของไทยสู่ยุโรปกลาง จึงถือเป็นช่องทางสำคัญในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจระหว่างกันให้ขยายตัวมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ขอฝากความระลึกถึงไปยังนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และรองประธานรัฐสภาฮังการี

ด้านเอกอัครราชทูตฯ กล่าวขอบคุณประธานรัฐสภา ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นในวันนี้ โดยประเทศไทยกับฮังการีมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาอย่างยาวนานและมีความร่วมมือกันหลายด้าน เมื่อตนมาประจำการที่ประเทศไทยได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน เป็นการสนับสนุนความร่วมมืออย่างครอบคลุมทุกมิติ สำหรับประเทศไทยกับฮังการีมีความเหมือนกันในด้านมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตลอดจนมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งการลงทุนในสาขาดังกล่าวจะสร้างผลประโยชน์ต่อการพัฒนาของทั้งสองประเทศซึ่งในช่วงต้นปี 2563 รองประธานรัฐสภาฮังการี ได้เดินทางเยือนไทยในฐานะแขกของรัฐสภา มีความประทับใจและชื่นชอบเมืองไทยเป็นอย่างมาก โดยได้ฝากความระลึกถึงมายังประธานรัฐสภาและหวังว่าจะได้มาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง และในช่วงต้นปี 2565 เลขาธิการรัฐสภาฮังการี ได้มีกำหนดการเยือนรัฐสภาไทย แต่กำหนดการดังกล่าวถูกเลื่อนออกไป จึงหวังว่าเมื่อสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลง จะมีการสานต่อในเรื่องนี้ต่อไป นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเรื่องสถานการณ์ในรัสเซีย-ยูเครน โดยเห็นพ้องกันเรื่องความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการเจรจาเพื่อให้เกิดสันติภาพ ทั้งนี้ ขอเรียนเชิญประธานรัฐสภาไปเยือนฮังการี ในช่วงปลายปี 2565 หรือต้นปี 2566 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับฮังการี

เครดิต : ข่าว โดย กลุ่มงานข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร