ประธานรัฐสภา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมและปลูกฝังแนวคิดบ้านเมืองสุจริตไปสู่เยาวชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และปาฐกถาพิเศษ เรื่อง สุจริตชนเพื่อเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริต ณ ห้องประชุมภักดีดำรงฤทธิ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช อำเภอเมือง จ. นครศรีธรรมราช (ต่อ)
วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2566 เวลา 11.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมภักดีดำรงฤทธิ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช อำเภอเมือง จ. นครศรีธรรมราช นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมและปลูกฝังแนวคิดบ้านเมืองสุจริตไปสู่เยาวชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “สุจริตชนเพื่อเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริต” โดยมี นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และประธานคณะกรรมการบริหารโครงการเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริต กล่าวรายงาน นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต้อนรับ โอกาสนี้ นายสัมพันธ์ ทองสมัคร อดีตรมว.ศึกษาธิการและอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ นายประกอบ รัตนพันธ์ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ นายชัยชนะ เดชเดโช นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ดร.สมปอง รักษาธรรม รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช คณะผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปลัดจังหวัด คณาจารย์ นักเรียน นิสิต นักศึกษา จากมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช โรงเรียนโยธินบำรุง โรงเรียนสตรีทุ่งสง โรงเรียนเมืองนครศรีธรรมราช โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยนครศรีธรรมราช โรงเรียนเบญจมราชูทิศ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนครศรีธรรมราช โรงเรียนทุ่งสง และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมพิธี
นายชวน หลีกภัย กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “สุจริตชนเพื่อเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริต” ว่า ขณะนี้สภาผู้แทนราษฎร จัดทำโครงการบ้านเมืองสุจริต ซึ่งโครงการนี้เป็นหน้าที่โดยตรงของฝ่ายบริหาร แต่ว่าสภาคิดว่าสภาพบ้านเมืองขณะนี้เราไม่ควรดูดาย อะไรที่อยู่ในวิสัยที่ทำได้ก็ควรทำ ใน ระบอบประชาธิปไตยที่เราเปลี่ยนแปลง การปกครองมาแล้ว 90 ปีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 ใช้รัฐธรรมนูญมา 20 ฉบับ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือพฤติกรรมของคน ประชาธิปไตยจะเป็นจริงหรือไม่อยู่ที่พฤติกรรมของคนเป็นสำคัญ แล้วรัฐธรรมนูญจะเขียนดีเช่นไรถ้าคนไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญก็จะไม่เป็นไปตามอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่ควรจะเป็น เช่นเดียวกับความซื่อสัตย์สุจริต ที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเขียนไว้ 22 คำ เขียนคำว่าสุจริตไว้ 38 คำ แต่ความซื่อสัตย์สุจริตไม่ได้อยู่ที่จำนวนคำที่เขียน แต่อยู่ที่การประพฤติปฏิบัติและอยู่ที่คน รัฐธรรมนูญทั้ง 20 ฉบับมีจุดอ่อนและจุดแข็งต่างกัน ไม่ว่ารัฐธรรมนูญจะเหมาะสมอย่างไรก็ตามเมื่อเกิดวิกฤติจะพบว่าเกิดจากคนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ถูกมองว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่เหมาะสมกับสภาพสังคมไทยมากที่สุด แต่ในที่สุดก็เกิดวิกฤติเพราะผู้บริหารบางชุดไม่เคารพตัวกฎหมาย ไม่ใช่อำนาจตามระบบ จนทำให้ภาคใต้มีปัญหามีการปล้นปืนที่ค่ายทหาร จ.นราธิวาส เมื่อปี 2547 ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2544 นโยบายการแก้ไขปัญหาภาคใต้ภายใน 3 เดือนเพราะเชื่อว่าคนร้ายมีไม่เกิน 50 - 60 คน สามารถจัดการได้ภายใน 3 เดือน นี้คือที่มาของปัญหาภาคใต้ที่คนรุ่นนี้จำไม่ได้เพราะเลยมาหลายปีแล้ว ทั้งหมด อยู่ที่พฤติกรรมคนเช่นเดียวกับปัญหาการทุจริต ในช่วง 2 - 3 สัปดาห์เราได้ยินข่าวข้าราชการระดับสูงทุจริต นักการเมืองถูกศาลติดสินเนื่องจากทุจริตจนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต นี้คือปัญหาของบ้านเมืองที่เกิดจากการทุจริต การปกครองระ ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย อำนาจนิติบัญญัติ คือ ฝ่ายรัฐสภา อำนาจบริหาร คือ ฝ่ายบริหาร อำนาจตุลาการ คือ ฝ่ายตุลาการ ทุกฝ่ายต้องใช้อำนาจของตน ไม่ก้าวก่ายอำนาจกัน กลไกประชาธิปไตยจะเดินหน้าไปได้ก็ต่อเมื่อ ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเคร่งครัด ฝ่ายนิติบัญญัติ มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ฝ่ายบริหารมาจากเสียงข้างมากในสภา ถ้าเราเลือกสภาที่ดีเข้าไปเราจะได้บริหารที่ดี ถ้าเราได้นักการเมืองที่โกงเราก็จะได้รัฐบาลที่โกง ประชาชนต้องระมัดระวังปัญหาเรื่องคนเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองเราในขณะนี้ เรากำลังพยายามแก้วิกฤติจากการทุจริตประพฤติมิชอบ การปล่อยให้คนโกงลอยนวล คนสุจริตเสียเปรียบเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง สภาจึงได้จัดทำโครงการบ้านเมืองสุจริตขึ้น ด้วยการรณรงค์ให้ประชาชนเชื่อเรื่องสุจริต เช่นในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ขอให้ครูผู้สอนช่วยกันสอนให้เด็กเชื่อในความสุจริต เพราะครูคือพลังในการสร้างคน ครูใช้เวลาเพียงวันละ 1 นาทีในชั่วโมงสอน ย้ำให้เด็กรู้ว่า ความสุจริตเป็นหัวใจสำคัญของบ้านเมือง เป็นอนาคตของประเทศชาติ อย่าดูดายต่อการโกง การทุจริต และต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ขอแค่ให้มีคนเชื่อเรื่องความสุจริต คน ๆ นั้นจะสามารถบริหารงานของตนเองได้อย่างสุจริต และสนับสนุนคนจริต คนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง ช่วยกันรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักในความดี ความสุจริต บ้านเมืองจะอยู่รอดได้ต้องสร้างคนดี สภาชุดปัจจุบันมีผลงานเป็นจำนวนมากเพราะความร่วมมืออันดีของสมาชิกทุกคน สภาไม่ได้มีชีวิตแต่คนที่เข้าไปอยู่ในสภา ถ้าเป็นคนดีภาพลักษณ์ของสภาก็จะดี ทุกองค์กรมีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกัน ถ้ามีนักการเมืองสุจริต ก็จะทำให้ประเทศรุ่งเรือง เมื่อบ้านเมืองสุจริต เพราะจะมีการจัดสรรงบประมาณอย่างสุจริต ตั้งคนสุจริตให้มาทำงาน ประชาชนทุกคนต้องเชื่อมั่นในความสุจริต ถ้าทุกคนเชื่อมั่นในความสุจริต ก็จะใช้ชีวิตและปฏิบัติหน้าด้วยความเชื่อในสิ่งเหล่านี้ ประเทศจะรุ่งเรืองเมื่อบ้านเมืองสุจริต อยู่ที่พฤติกรรมของคน ถ้าเราเชื่อเรื่องนี้ ครูเชื่อเรื่องนี้ ครูต้องอาศัย ศักยภาพตัวเองในการช่วยปลูกฝัง สอน และสร้างคน ให้มีความเชื่อในเรื่องความสุจริต เพราะบ้านเมืองต้องอาศัยคุณภาพคน ต้องสร้างคนเก่งและคนดีให้มาช่วยพัฒนาบ้านเมือง รัฐธรรมนูญแม้จะไม่สมบูรณ์หากคนดีใช้ ก็จะสามารถประคับประคองบ้านเมืองไปได้ ทั้งกฎหมายที่ดีและคนดี ต้องไปด้วยกัน ขอให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนโครงการบ้านเมืองสุจริต ด้วยการสร้างเยาวชนให้เป็นคนดีมีความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะทำตำแหน่งอาชีพอะไรก็ทำด้วยความสุจริตไม่โกง ทำความถูกต้องทั้งต่อหน้าและลับหลัง สนับสนุนเลือกนักการเมืองที่ดีให้เข้าไปกำหนดนโยบายที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในประเทศ ช่วยกันสร้างคนดี ให้เชื่อเรื่องความสุจริต
การจัดโครงการในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการเรียนรู้และเกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดีของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ครู อาจารย์ เกี่ยวกับแนวทางการสร้างบ้านเมืองสุจริต รวมถึงการปลูกฝังค่านิยมการสร้างบ้านเมืองสุจริต
ให้เป็นบรรทัดฐานการดำรงชีวิตต่อไป โดยเป็นการจัดสัมมนาแบบ Hybrid (ไฮบริด) มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย นักเรียน นิสิต นักศึกษา และครูอาจารย์ จากจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมจำนวน 350 คน โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์เพจบ้านเมืองสุจริต สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ประกอบด้วยการเสวนา “ประเทศรุ่งเรือง เมื่อบ้านเมืองสุจริต” การปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “สุจริตชนเพื่อเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริต” โดยประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร การแบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็นหัวข้อ “เยาวชนกับการมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริต” โดยวิทยากรของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และยุวชนประชาธิปไตย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการมอบหนังสือ “สุจริตชนเพื่อเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริต” ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า ให้แก่ผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่าน และมีการจัดนิทรรศการให้ความรู้ด้วย