ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการ สถาบันพระปกเกล้า
1 พฤศจิกายน 2567
วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.15 นาฬิกา ณ สถาบันพระปกเกล้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อาคารรัฐประศาสนภักดี เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 26 ประจำปี 2567 เรื่อง "สร้างสะพานประชาธิปไตยจากฐานราก เพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย (Building Bottom-up Democracy for Thailand's Sustainability)" ผ่านระบบออนไลน์ โดยมี นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวรายงาน ในการนี้ ผู้บริหารสถาบันพระปกเกล้า เข้าร่วมในพิธี
โอกาสนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวเปิดใจความว่า ในนามประธานรัฐสภา และในนามประธานสภาสถาบันพระปกเกล้าผมมีความยินดี และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 26 เรื่อง "สร้างสะพานประชาธิปไตยจากฐานรากเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย" และขอขอบคุณผู้มีเกียรติทุกท่าน ที่เห็นความสำคัญในการเข้าร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการ ประสบการณ์ ตลอดจนนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องภายใต้พื้นฐานของการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพลังของประชาธิปไตยจากฐานรากในการพัฒนาประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อเสนอแนะและเป็นแนวทางในการพัฒนาองค์ความรู้ในการนำประชาธิปไตยจากฐานรากมาใช้ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตยที่ตั้งมั่นและยั่งยืนเมื่อกล่าวถึงประชาธิปไตยนั้น ย่อมมีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งที่จะกล่าวถึงคำว่า "พลังมหาชน" ซึ่งคำดังกล่าวมีที่มาจากความชอบธรรม 2 แหล่งด้วยกัน"ความชอบธรรมจากบนสู่ล่าง" หมายถึง ความชอบธรรมจากกลุ่มบุคคลหรือองค์กรซึ่งมีอำนาจในการบริหารจัดการในฐานะที่มีความสามารถมากกว่า "ความชอบธรรมจากฐานราก" หมายถึง ความชอบธรรมจากประชาชน ในฐานะปัจเจกชนที่มีอำนาจในตนเอง จึงจะมีอำนาจในการบริหารจัดการชีวิตของตนเอง ทั้งนี้ หากกล่าวถึงการพัฒนานโยบายและประเทศ มักพบว่าเป็นการพัฒนาจากบนสู่ล่าง เป็นการริเริ่มจากองค์กรที่มีอำนาจ เช่น กลุ่มบุคคลหรือพรรคการเมืองซึ่งแม้ว่าจะเกิดจากการรวมกลุ่มกันของประชาชน แต่อย่างไรก็ดี พรรคการเมืองเองก็อาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ว่าเป็นองค์กรที่เกิดจากกลุ่มบุคคลที่มีอำนาจหรือกลุ่มผู้ที่มีฐานะรวมตัวกันเข้ามาแสวงหาอำนาจ และใช้อำนาจนั้นในแนวทางเพื่อขวางกั้นการพัฒนาการมอง "ประชาธิปไตยจากบนสู่ล่าง" จึงเป็นมุมมองที่อาจจะไม่ใช่คำตอบสำหรับการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาทุกเรื่อง เนื่องจากบางครั้งอาจนำ ไปสู่ความผิดปกติและใช้อำนาจอย่างเบ็ดเสร็จได้ แต่ "ประชาธิปไตยจากฐานราก" ซึ่งหมายถึงประชาชนในฐานะปัจเจกชนและพลเมืองที่รวมตัวกัน ทำให้เกิดอำนาจและพลังที่แข็งแกร่งสามารถนำไปสู่การขับเคลื่อนแนวคิดสู่การเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นคงเมื่อเกิดปัญหาขึ้นในสังคมก็มักจะเกิดคำถามเกี่ยวกับประชาธิปไตยจากบนสู่ล่าง ดังเช่นสังคมไทยในปัจจุบันซึ่งก่อให้เกิดแรงกระตุ้นชุมชนและสังคมให้รวมตัวกัน เพื่อนำเสนอข้อมูลและต่อยอดแนวความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาการเมืองแบบใหม่ในวิถีทางของตนลงที่เรียกว่า การเมืองในชุนหรือพื้นที่ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนรูปแบบที่ปรากฎผลเด่นชัด ได้แก่ การมีท้องถิ่นและภาคประชาสังคมที่เข้มแข็งเกิดการยอมรับในความแตกต่าง ความเสมอภาคเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะในหลายชุมชนที่มีการยอมรับในอัตลักษณ์และความหลากหลาย เข้าใจต่อความแตกต่างเพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์สังคมในการอยู่ร่วมกัน จึงเรียกได้ว่าเป็นการเมืองที่ก้าวหน้าหลักการประชาธิปไตยจากฐานราก จึงเป็นเรื่องการทำงานบนวิถีประชาธิปไตยที่มุ่งเสริมสร้างพลังรวมกัน โดยไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง อย่างมีธรรมาภิบาล มีสำนึกนึกรับผิดชอบและมีสำนึกถึงความเป็นพลเมือง การเปิดเผยและโปร่งใส มีวินัย ยึดมันในหลักนิติธรรม โดยประชาชนสามารถรับรู้หรือรู้สำนึกได้ว่า ตนเองมีคุณค่า มีสิทธิและเสรีภาพ รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนในฐานะพลเมือง ในการแสดงความคิดเห็นและสามารถร่วมผลักดัน ขับเคลื่อนแนวความคิดเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ร่วมกัน นอกจากนี้ สังคมยังต้องประกอบด้วยการมีภูมิคุ้มกันและการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีร่วมกันเพื่อความยั่งยืน ความสุขสันติ และความเป็นธรรมในสังคม
ดังนั้น ประชาธิปไตยจะอยู่ได้จะต้องมีการขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวหน้าไปประกอบด้วยประชาธิปไตยด้านบนที่มั่นคงและประชาธิปไตยด้านล่างที่เข้มแข็งเปรียบเสมือนต้นไม้ที่จะเติบโตให้ร่มเงา สามารถผลิดอกออกผลให้แก่คนในสังคมได้ก็ย่อมต้องอาศัยองค์ประกอบหลายส่วนรวมเข้ากันอย่างเข้มแข็ง และเมื่อประชาธิปไตยจากฐานรากเกิดขึ้นอย่างมั่นคง ความรู้สึกถึงคุณค่าของพลเมืองที่จะสร้างสังคมสันติสุขอย่างยั่งยืน ก็จะเกิดมีขึ้นได้ด้วยพลังของพลเมืองเอง บัดนี้ ได้เวลาอันสมควรแล้ว ขอเปิดการประชุมวิชาการสถาบันพระปกล้า ครั้งที่ 26 เรื่อง "สร้างสะพานประชาธิปไตยจากฐานราก เพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย"และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะได้รับประโยชน์จากการประชุมทางวิชาการในครั้งนี้ตามวัตถุประสงค์ที่คณะกรรมการจัดงานกำหนดไว้ทุกประการ
สำหรับการประชุมทางวิชาการ จัดโดย สถาบันพระปกเกล้า ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 -2 พฤศจิกายน 2567 ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีสาธารณะในการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการประสบการณ์เกี่ยวกับประชาธิปไตยจากฐานราก นำเสนอแนวทางในการพัฒนาองค์ความรู้ในการนำประชาธิปไตยจากฐานรากมาใช้ในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมร่วมของประชาชน เพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตยที่ตั้งมั่นและยั่งยืนต่อไป