ประธานรัฐสภา บรรยายหัวข้อ “ผู้นำทางการเมืองในบริบทสังคมไทย” ให้กับผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการบริหารงานพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืนรุ่นที่ 6 ของสถาบันพระปกเกล้า
29 พฤศจิกายน 2567
วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุมสัมมนา B1-2 ชั้น B1 อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และในฐานะประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า ให้เกียรติบรรยาย หัวข้อ “ผู้นำทางการเมืองในบริบทสังคมไทย” ให้กับคณะผู้เข้ารับการศึกษาอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการบริหารงานพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืน รุ่นที่ 6 ของสถาบันพระปกเกล้า จำนวน 80 คน กล่าวรายงานโดย รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า โดยมี นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร นายธงชาติ รัตนวิชา ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร คณะทำงานทางการเมือง
ประธานรัฐสภา กล่าวถึงผู้นำทางการเมืองว่า เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางและนโยบายของสังคมซึ่งคุณสมบัติที่ดีของผู้นำทางการเมืองต้องมีความรู้ในประเด็นปัญหาต่าง ๆ และต้องมีข้อมูลเพื่อใช้ในการประกอบการวิเคราะห์ นั่นคือ การมีวิสัยทัศน์ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้นำในการบริหารประเทศ ต้องนำความรู้ความสามารถในการปฏิบัติตนให้เป็นที่ยอมรับของบุคคลอื่นด้วยผลงาน ด้วยวาทะศิลป์ที่เรียกได้ว่ามีบารมี ซึ่งต้องใช้ทั้งพระเดชและพระคุณในเวลาด้วยกัน ทำให้คนทั้งรักและทั้งเกรงใจ มีความจริงจังในการทำงานมีวุฒิภาวะ มีจริยธรรม และยึดมั่นในหลักการความถูกต้องจนเป็นที่น่าเชื่อถือทางการเมือง สิ่งสำคัญที่ผู้นำภายใต้ระบบการเมือง ระบอบประชาธิปไตยต้องยึดไว้คือประชาธิปไตยเป็นของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน ซึ่งประชาชนเป็นสิ่งสำคัญในระบอบประชาธิปไตย โดยต้องมีผู้นำที่มีความเป็นพลวัตรคือต้องเป็นผู้ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทของสังคม และสถานการณ์ได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ แนวคิดของพระธรรมโกศาจารย์ หรือ พระพุทธทาสภิกขุ คือ “การเมืองคือการจัดการความเป็นอยู่ของคนหมู่มากให้หมดปัญหา” โดยสรุปแล้วผู้นำทางการเมืองของไทยในอนาคตต้องเป็นผู้ที่มีความยืดหยุ่นและวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล เป็นตัวกลางในการสร้างความสมดุลระหว่างการเปลี่ยนแปลงภายนอกและความต้องการของประชาชนภายในประเทศ รวมทั้งต้องสามารถนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพในทุกมิติ การพัฒนาที่ยั่งยืนต้องคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม สภาพอากาศโดยรวมและมีการวางแผนที่เป็นระบบครอบคลุมปัญหาทั้งหมด ทั้งนี้ ต้องมีการเรียนรู้ทั้งผู้บริหารท้องถิ่น ผู้บริหารระดับประเทศ และภาคประชาชนเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ในวันนี้ที่ประเทศไทยมีประชาธิปไตยได้เนื่องจากพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระราชทานประชาธิปไตยให้กับพสกนิกรชาวไทย พร้อมทั้งได้สละราชสมบัติเพื่อทุกคนจะได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผู้นำทางการเมืองเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นเพื่อให้การดำเนินงานไปข้างหน้าได้ ประเทศของเราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยประชาชนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการปกครอง
การจัดอบรมดังกล่าวจัดโดย วิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารงานพัฒนาในพื้นที่ ที่ให้ความสำคัญกับแนวทางการพัฒนาที่ยึดท้องถิ่นและประชาชนเป็นศูนย์กลาง และการเน้นศักยภาพเฉพาะของท้องถิ่นให้เชื่อมโยงกับบริบทแวดล้อมทั้งภายในและระหว่างประเทศ ตลอดจนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ใหม่ ๆ ไปใช้จริงในการบริหารงาน และสามารถปรับใช้แนวคิดและเครื่องมือการพัฒนาต่าง ๆ ที่เป็นสากลให้สอดรับกับบริบทการบริหารงาน พัฒนาในแบบสังคมตะวันออกได้อย่าลงตัว ซึ่งหลักสูตรฯ มีผู้เข้ารับการศึกษาอบรมประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระ