โฆษกประธานสภาฯ รับยื่นหนังสือเพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือประชาชนถูกหลอกลวงจากกลุ่มบุคคลกลุ่มเดียวกันที่หลอกลวงในหลายรูปแบบ
12 ธันวาคม 2567
วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม และคณะ เรื่อง ขอให้ช่วยเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือประชาชนถูกหลอกลวงจากกลุ่มบุคคลกลุ่มเดียวกันที่หลอกลวงในหลากหลายรูปแบบ ด้วยชมรมฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการหลอกลวงให้ลงทุนจํานวนมากทั้งในรูปแบบการหลอกลงทุน ในแต่ละปีมีประชาชนถูกหลอกลวงนับแสนคดี ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก อาทิ กรณีที่มีผู้เสียหายหลงเชื่อลงทุนมิจฉาชีพ เมื่อถึงเวลาปันผลกําไรจากการลงทุน ก็จะบ่ายเบี่ยงหาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อไม่ให้มีการเเบ่ง หรือคืนเงินทุน หรือผลกําไรตอบเเทน สุดท้ายแล้ว ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ โดยการหลอกลวงต่าง ๆ อาทิ การสั่งซื้อสินค้าบริโภคประเภทต่าง ๆ ที่ไม่ได้มาตรฐานโดยไม่มีการชดใช้แต่อย่างใด นอกจากนี้ ผู้กระทําผิดรายเดิมยังชักชวนให้ลงทุนธุรกิจ อาทิ ธุรกิจขายเสื้อผ้ามือสองที่กระทรวงการคลัง โดยมีค่าเช่าพื้นที่ 1 แสนบาท และมีค่ามัดจํา 1 หมื่นบาท และอีกกรณีคือหลอกลวงให้จ่ายค่าเช่าพื้นที่ขายสินค้าที่ห้างสรรพสินค้า โดยเสียค่าเช่าพื้นที่ 1 แสนบาท ค่าสินค้า 1 แสนบาท รวมค่าลงทุนและค่าเช่าสถานที่กว่า 4 แสนบาท และพบว่าเป็นการหลอกลวงทั้งสิ้น รวมจำนวนที่เสียหายไปแล้วประมาณ 6 แสนบาท และอีกรายก็ถูกบุคคลกลุ่มเดียวกันหลอกลวงว่าจะสามารถช่วยคดีความให้พ้นผิดได้และหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน อ้างว่าต้องมีการวางประกันในชั้นศาล หรือสามารถวิ่งเต้นเพื่อให้หลุดพ้นจากคดีต่าง ๆ ได้ และให้มีการจ่ายเงิน รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 21 ล้านบาท จึงขอให้หามาตรการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ถูกหลอกลวง ไม่ว่าจะเป็น การแจ้งเตือนให้มีความระมัดระวังมากขึ้น การจัดสรรทรัพยากร บุคลากรและเทคโนโลยีเพื่อให้เกิดความรู้เท่าทันมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบต่าง ๆ โดยในปีนี้ถือว่าเป็นปีแห่งการเปิดโปงพฤติกรรมหลอกลวงของบุคคลและองค์กรหลากหลายวิชาชีพอย่างน่าเป็นห่วงเพราะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและคุณค่าของการดํารงชีวิตในสังคมอย่างมีนัยสําคัญ
โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ในปัจจุบันการหลอกลวงมักมาในหลายรูปแบบ ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎร มีความห่วงใยในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ จะนำเรื่องดังกล่าวไปตรวจสอบตามกระบวนการนิติบัญญัติ และนำกราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป