ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จำนวน 5 ฉบับ จาก นายสมพงษ์อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน
วันพุธที่ 16 มิถุนายน 2564 เวลา 12.30 นาฬิกา ณ จุดให้สัมภาษณ์ ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จำนวน 5 ฉบับ จาก นายสมพงษ์อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย
นายสุทิน คลังแสง ประธานกรรมการประสานงานพรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (วิปฝ่ายค้าน) นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายนิคม บุญวิเศษหัวหน้าพรรค
พลังปวงชนไทย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคร่วมฝ่ายค้าน ดังนี้
1. ร่างแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรา 256 เพื่อนำไปสู่กระบวนการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)
2. ร่างแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรา 272 ประเด็นอำนาจวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ในร่างฉบับนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค มีความเห็นพ้องต้องกันในการร่วมลงชื่ออย่างพร้อมเพรียงกัน3. ร่างแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิเสรี
ของประชาชน เรื่องการประกันสุขภาพ การประกันตัว รวมถึงเรื่องที่รัฐธรรมนูญฉบับปี 60 ยังบัญญัติไว้ไม่ชัดเจน
4. ร่างแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบเลือกตั้ง
5. ร่างแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และยกเลิกอำนาจ คสช.
จากนั้น นายชวน หลีกภัย กล่าวภายหลังรับยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทุกฉบับ
จากทุกฝ่ายที่ได้รับการยื่นเสนอมานั้น หลังจากนี้ จะได้มีตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมต่อไปนอกจากนี้ ได้กล่าวถึงการประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยในวันที่ 22 มิ.ย. 64 มิถุนายน 2564 จะเป็นการพิจารณา
กฎหมายที่ค้างการพิจารณาของรัฐสภา ส่วนในวันที่ 23 มิ.ย. 64 เป็นการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทุกฉบับ
ที่มีการเสนอ ซึ่งหากพิจารณาไม่แล้วเสร็จก็สามารถขยายเวลาได้เพิ่มอีก 1 วัน คือวันที่ 24 มิ.ย. 64 ส่วนการบริหาร
จัดการเวลาในการอภิปรายนั้น ก่อนวันประชุม ทางวิป 3 ฝ่าย จะได้มีการหารือร่วมกันอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม การประชุมร่วมกันของรัฐสภาในครั้งนี้ จะมีการคุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส
โคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ต้องดำเนินการให้ได้เต็มร้อย ส่วนผู้อภิปรายที่ไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัย ได้จัดแท่นอภิปรายไว้ให้เป็นการเฉพาะ